post

การรับมือกับคน toxic ที่ไม่น่าปวดหัวอีกต่อไป

การจัดการกับคนนิสัยไม่ดีอาจเป็นเรื่องท้าทายและทำให้เสียอารมณ์ วิธีจัดการที่จะสามารถช่วยคุณเบี่ยงเบนความสนใจจากคนเหล่านี้

ระบุพฤติกรรม: ขั้นตอนแรกคือการจดจำพฤติกรรมที่เป็นพิษที่คุณกำลังเผชิญอยู่ สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการบงการ การวิจารณ์ การปฏิเสธ การดูหมิ่น หรือการกระทำใดๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกหมดแรง ถูกดูหมิ่น หรือไม่ปลอดภัย

กำหนดขอบเขต: เมื่อคุณระบุพฤติกรรมที่เป็นพิษได้แล้ว ให้กำหนดขอบเขตที่ชัดเจน สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการจำกัดการติดต่อ ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนาเฉพาะเจาะจง หรือแสดงความรู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำของพวกเขาโดยตรง กล้าแสดงออกและมั่นคงในการสื่อสารของคุณ

อย่าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขา: จำไว้ว่าพฤติกรรมที่เป็นพิษมักเกิดจากปัญหาของแต่ละคน ไม่ใช่ภาพสะท้อนถึงคุณค่าของคุณ อย่ามองแง่ลบของพวกเขาเป็นการส่วนตัวหรือพยายามแก้ไข

จัดลำดับความสำคัญในการดูแลตนเอง: การมีส่วนร่วมกับคนนิสัยไม่ดีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและอารมณ์ของคุณได้ อย่าลืมจัดลำดับความสำคัญในการดูแลตนเอง เช่น เทคนิคการผ่อนคลาย การใช้เวลาร่วมกับคนที่คุณรักที่คอยให้กำลังใจ และกิจกรรมที่คุณชอบ

ขอความช่วยเหลือ: การพูดคุยกับเพื่อนที่คุณไว้ใจ สมาชิกในครอบครัว นักบำบัด หรือที่ปรึกษาอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง พวกเขาสามารถให้คำแนะนำ การสนับสนุน และช่วยคุณพัฒนากลไกการรับมือ

ลองลดหรือยุติความสัมพันธ์: ในบางกรณี ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่สุดคือการแยกตัวออกห่างหรือยุติความสัมพันธ์กับคนนิสัยไม่ดีโดยสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเคารพขอบเขตของคุณ

ประเด็นที่น่าใส่ใจและควรปฏิบัติเป็นอย่างมากคือ

มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้: คุณไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของผู้อื่นได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาและตัวเลือกของคุณเองได้

อย่าทะเลาะวิวาทหรือพยายาม “เอาชนะ”: การมีส่วนร่วมกับคนนิสัยไม่ดีในระดับเดียวกับพวกเขาอาจเป็นเรื่องไร้ประโยชน์และบั่นทอนจิตใจ

จัดลำดับความสำคัญด้านสุขภาพจิตของคุณ: จำไว้ว่าความเป็นอยู่ที่ดีของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่ากลัวที่จะเดินหนีจากสถานการณ์หรือความสัมพันธ์ที่ทำให้คุณเสียหาย

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการจัดการกับคนนิสัยไม่ดีนั้นเป็นการเดินทางส่วนตัว และแนวทางที่ถูกต้องอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะ ใจดีกับตัวเอง จัดลำดับความสำคัญความเป็นอยู่ที่ดีและอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือหากจำเป็น

post

ตอบคำถามเกม MMORPG คืออะไร? พร้อมแนะนำเกม MMORPG น่าเล่นปี 2023

เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับเกมแนว RPG (Role Playing Game) ที่ผู้เล่นต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครตัวในเกมและต้องดำเนินเกมตามโครงเรื่องที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งเกม RPG ดัง ๆ ได้แก่ GTA, Cyberpunk, Skyrim เป็นต้น แต่สำหรับเกมแนว MMORPG (Massive Multiplayer Online Role-Playing Game) หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกันนัก เพราะแม้มันจะถูกจัดให้เป็นเกมแนว RPG ประเภทหนึ่ง แต่ก็มีระบบการเล่นที่ซับซ้อนกว่ามาก ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเกมประเภทนี้ พร้อมทั้งแนะนำเกมน่าเล่นในปี 2023

เกม MMORPG คืออะไรและมีระบบการเล่นอย่างไร?

เกมแนว MMORPG หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า “Massive Multiplayer Online Role-Playing Game” เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครที่เกมกำหนดขึ้นมาคล้ายกับเกมแนว RPG แต่ผู้เล่นจะต้องเล่นแบบออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นทั่วโลก อาจจะมีผู้เล่นตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนคนเล่นอยู่พร้อมกัน การดำเนินเรื่องจะไม่มี AI หรือ “บอท” เหมือนเกมแนว RPG ทั่วไป เพราะผู้เล่นทุกคนจะต้องแข่งขันกันเองเพื่อเก็บเลเวลหรืออัปสกิลการต่อสู้ต่าง ๆ ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ บางเกมผู้เล่นสามารถร่วมทีมกับผู้คนอื่นแล้วช่วยกันตะลุยด่านหรือทำเควสเก็บค่าประสบการณ์ต่าง ๆ ไปด้วยกันได้ และถึงแม้ผู้เล่นจะออกจากระบบไปแล้ว แต่โลกเสมือนจริงในเกมจะยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุดตามผู้เล่นไปด้วย 

เกมแนว MMORPG ที่น่าสนใจประจำปี 2023

สำหรับเกมแนว MMORPG ที่เรานำมาแนะนำกันจะเป็นเกมบน PC และมีเกมหลายแบบหลายสไตล์ ตั้งแต่แนวแฟนตาซีไปจนถึงแนวไซไฟตะลุยอวกาศกันเลยทีเดียว 

1. Guild Wars 2  แม้จะเปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย ตัวเกมจะเป็นแนวแอคชันแฟนตาซี ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นตัวละครในโลกที่ผู้คนใช้ดาบและเวทมนตร์ในการต่อสู้ ออกผจญภัยไปตามแผนที่ต่าง ๆ ที่มีภูมิประเทศแตกต่างกัน 

2. New World  เกม MMORPG มุมมองบุคคลที่สามที่มีระบบการเล่นทั้ง PVP และ PVE โดยผู้เล่นจะสวมบทเป็นตัวละครทำภารกิจต่อสู้กับมอนสเตอร์ต่าง ๆ เพื่อแย่งชิงดินแดนภายในเกม รวมถึงต้องทำการค้าขายและจัดเก็บภาษีต่าง ๆ เพื่อสร้างฐานที่มั่นของตัวเองด้วย 

3. Star Wars The Old Republic  เกมยอดฮิตในจักรวาล Star Wars ที่ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นตัวละครจากฝ่ายต่าง ๆ 8 ฝ่าย เช่น เจได, ซิธ, นักล่าค่าหัว ฯลฯ ออกทำภารกิจต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกกระทำและบทสนทนาของเราได้ และมันจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องทั้งหมด 

4. Chrono Odyssey  ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นตัวละครที่มีให้เลือกมากถึง 18 อาชีพ และต้องต่อสู้ในสงครามระหว่างหน่วยต่อต้านเทพเจ้ากับเทพทั้ง 12 องค์ 

5. Into The Echo  ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นนักเดินทางข้ามเวลา พบเจอกับอารยธรรมและชนเผ่าต่าง ๆ ในหลายช่วงเวลา ผู้เล่นต้องช่วยกันต่อตั้งดินแดน ตามหาทรัพยากรต่าง ๆ มาสร้างอารยธรรมของตัวเอง และยังต้องทำสงครามกับผู้เล่นคนอื่นด้วย 

post

กินบะหมี่กึ่งสำเร็จสำเร็จรูปอย่างไรไม่ให้ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ

ยุคนี้ไม่ว่าอะไรก็แพงไปหมด แม้กระทั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เมื่อก่อนเราซื้อในราคาห่อละ 6 บาท ปัจจุบันขึ้นเป็นห่อละ 8 บาทไปแล้ว จึงไม่ใช่เมนูของคนที่อยากประหยัดอีกต่อไป เพราะเมื่อเฉลี่ยแล้ว การทานอาหารที่ทำเสร็จใหม่ ๆ ในบางเมนูยังถูกกว่าเสียอีก แต่ด้วยรสชาติน้ำซุบนั้นแซบถึงใจ จึงทำให้เราติดรสชาตินั้นไปแล้ว แต่หากไม่ได้มองเรื่องแพง แต่จะทานอย่างไรให้เกิดผลดีที่สุด วันนี้เราจะมาบอกกันให้ได้รู้ 

อย่างที่ทราบกันว่าในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายมากทีเดียว ฉะนั้นควรใส่สารอาหารอื่นเข้าไปผสมตอนต้มด้วย เช่น ผัก ไข่ เนื้อสัตว์ เหล่านี้จำเป็นต้องใส่อย่างยิ่ง เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกดังนี้ 

-อ่านฉลากบรรจุภัณฑ์เสมอ เลือกซื้อที่มีสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” เนื่องจากปริมาณโซเดียมน้อยและควรเลือกแบรนด์ที่เพิ่มสารไอโอดีน ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ

ไม่รับประทานเป็นประจำหรือให้เป็นอาหารหลัก ยิ่งในเด็กไม่ควรทาน เพราะจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ฉะนั้นในหนึ่งวันไม่ควรทานเกินวันละ 1 ซอง หากมากกว่านั้นอาจเกิดโรคไต ความดันโลหิต

-การทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดิบ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะทำให้ท้องอืดได้ 

เรื่องน่ารู้ของการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

การต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปควรใส่น้ำส้มสายชูเข้าไปด้วย จะทำให้เส้นเหนียวนุ่มเพราะในนั้นมีกรดอินทรีย์ แต่ต้องนำไปต้มก่อน 1-2 นาที แล้วจึงใส่เครื่องปรุง

สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีคุณค่าทางโภชนาการ ขนาดซอง 60 กรัม สามารถให้พลังงานประมาณ 300 กว่าแคลอรี ถือว่าน้อยมาก จึงไม่ควรทานเป็นมื้อหลัก เพราะพลังงานที่คนเราต้องการอยู่ที่ 2000-2500 แคลอรีต่อวัน ฉะนั้นทุกครั้งที่ทานควรเติมผัก เนื้อหมูเข้าไปด้วย

ข้อดีของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป : เป็นเมนูที่สะดวกใช้เวลาในการทำไม่นาน มีรสชาติกลมกล่อม อร่อย ที่สำคัญเก็บไว้ได้นานมาก ๆ และไม่ว่าจะไปไหนก็สามารถพกไปได้ทุกที่

ข้อเสีย : สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีแป้งและไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก หากใครที่ทานเป็นประจำทุกวันติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้กลายเป็นคนขาดสารอาหาร ส่งผลเสียต่อร่างกายโดยเฉพาะไต ที่สำคัญหากใครแพ้โซเดียมอาจแสดงอาการชา ปวดท้ายทอย เพราะมีโซเดียมปริมาณสูงมากจึงแสดงอาการทันทีหลังจากทาน

แม้ว่าในการทานจะเพิ่มสารอาหารอย่าง โปรตีนจากเนื้อสัตว์ วิตามินจากผัก ก็ไม่ควรทานติดต่อกันหลาย ๆ วันและทานได้ไม่เกิน 1 ซองต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีควรทิ้งระยะห่างการทานเป็นการดี อย่างไรอาหารที่เราทำเสร็จใหม่ ๆ มีประโยชน์กว่าแน่นอน เรื่องรสชาติก็สามารถปรับได้ตามใจชอบ

post

ก่อนทำธุรกิจหมูกระทะต้องรู้ 5 สิ่งนี้

หมูกระทะเป็นเมนูโปรดของคนไทยแทบทุกเพศทุกวัยได้รับความสนใจมานานมากกว่า 10 ปีและในปัจจุบันเองก็ยังคงเป็นเมนูยอดฮิตอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ซึ่งมีทั้งแบบชั่งกิโลหรือแบบเป็นชุดขาย และแบบบุฟเฟต์ ล้วนได้รับความนิยมทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ทำให้เหล่านักกินหรือคนที่มีความชื่นชอบอยู่แล้วอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่นี่ก็ไม่เพียงพอต่อการจะเริ่มเป็นเจ้าของ วันนี้ถือโอกาสดีในการศึกษา 5 ปัจจัยเผื่อว่าอนาคตจะเปิดร้านหมูกระทะ 

1.ไม่เอาเปรียบและมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า

การที่คุณจะเปิดร้านหมูกระทะเรื่องราคาไม่ใช่สิ่งที่ตัดสินว่าร้านของคุณจะไปรอดหรือไม่ เพราะหากราคาสูง แต่ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าอย่างสมเหตุสมผลกลับคืนไปลูกค้าพร้อมจ่ายอย่างแน่นอน  อย่างเช่นการทำบุฟเฟต์หมูกระทะความต้องการคือได้มีโอกาสเลือกทานอาหารที่ชื่นชอบ ทางร้านมีหน้าที่คัดสรรแลเลือกอาหารมาในปริมาณที่เหมาะสมกับราคา

2.รสชาติที่ดีต้องมาพร้อมคุณภาพวัตถุดิบให้สมกับราคา

แม้ว่าคุณจะเปิดร้านอาหารบุฟเฟต์แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องรสชาติ ต้องมีความคงที่ไม่ให้ผิดเพี้ยน ไม่นำอาหารค้างคืนมาขายซ้ำ ๆ ถือเป็นการทำลายลูกค้าอย่างร้ายแรง ฉะนั้นเพื่อสร้างความประทับใจทุกครั้งที่ได้มาทานที่ร้านทุกอย่างต้องคงคุณภาพ หากคุณสามารถทำได้ตลอด ธุรกิจจะต้องสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืนแน่นอน นอกจากนี้ควรบริหารของเหลือให้ดี เพื่อไม่ให้เสียเปล่าเพราะบางวัตถุดิบสามารถนำไปรังสรรค์เมนูอื่นได้ไม่ยาก 

3.บริหารเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ดี

หากคุณเลือกทำร้านหมูกระทะแบบบุฟเฟต์วัตถุดิบคือต้นทุนที่สูงที่สุด จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องหาร้านจำหน่ายในราคาย่อมเยา ในส่วนของค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟและอื่น ๆ จะต้องควบคุมทั้งสองอย่างให้ดี เพื่อให้เกิดผลกำไรสูงสุด 

4.จะต้องชัดเจนในเรื่องของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกำหนดทิศทางของธุรกิจ

แม้ว่าในตอนนี้ร้านหมูกระทะจะมีเยอะมาก แต่การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและแตกต่างจะทำให้สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ไม่ยาก แต่หากมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเดียวกันจะทำให้เกิดการแย่งชิง ส่งผลเสียต่อทั้งสองร้าน ที่สำคัญเรื่องของกลุ่มเป้าหมายจะทำให้คุณกำหนดราคา การออกแบบร้านและบริการเสริมได้ตรงตามความต้องการของผู้มาใช้บริการ  

5.ร้านและอาหารต้องสะอาด 

นอกจากวัตถุดิบต้องสด คุณภาพและรสชาติดีแล้ว เรื่องความสะอาดก็ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของสถานที่ สิ่งแวดล้อมโดยรอบและภาชนะ ควรใส่ใจให้มาก 

เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นในการบริหารร้านหมูกระทะ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่คุณต้องศึกษาควบคู่ไปด้วยและที่สำคัญการบริการด้วยใจล้วนสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้านำไปสู่การบอกต่อ ทำให้ร้านของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอน ที่สำคัญหากพบว่ามีคู่แข่งการลดราคาเพื่อเรียกลูกค้าไม่ใช่ทางออกที่ดี ควรมีจุดยืนชัดเจน เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจ ที่สำคัญควรพัฒนาธุรกิจเสมอจากคำติชมของลูกค้า

post

ร้อนนี้เพิ่มสีสันให้บ้าน ด้วยการเลือกปลูกต้นไม้ทนแดด ตายยาก

ประเทศไทยมีอุณหภูมิร้อนเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นหากอยากให้บ้านเต็มไปด้วยสีสันสดใสและร่มรื่นจะต้องเลือกปลูกต้นไม้สายพันธุ์ที่ทนแดดทนฝน ซึ่งก็มีหลากหลายให้เลือก อีกทั้งผลิดอกออกผลตลอดทั้งปี ฉะนั้นแม้ว่าอากาศจะร้อนจัดแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะตาย เราไปดูกันว่ามีต้นไม้ชนิดไหนบ้าง

1.โมกใบเขียวดอกสีขาว มีกลิ่นอ่อน ๆ เป็นไม้พุ่มที่คนไทยนิยมนำมาปลูกเพื่อทำเป็นกำแพงหรือรั้ว หากดูแลใส่ปุ๋ยจะทำให้ใบเขียวสดและออกดอกดกมาก ๆ ให้ฟิลความสวยงามไม่แพ้ไทรเกาหลีเลยล่ะ แม้ว่าดอกจะดูเล็ก บอบบางก้านย้อยลงมา แต่บอกเลยว่าทนแดดสุด ๆ หรือหากต้องการปลูกลงกระถางก็สามารถทำได้ แต่กระถางต้องมีความลึกที่ 5 ซม. ที่สำคัญแม้ว่าจะปลูกต้นนี้ไว้ใต้ชายคาหรือต้นไม้ใหญ่ ก็สามารถดำรงอยู่ได้อย่างสวยงามและไม่มีทางตายเลยล่ะ

2.เฟื่องฟ้าไม้เลื้อยดอกดกสีสันสดใส หลายคนจะต้องคุ้นเคยกับต้นไม้ชนิดนี้อย่างมากแน่นอน เพราะไม่ว่าจะไปที่แห่งไหนในประเทศไทยก็มักจะเต็มไปด้วยต้นไม้ชนิดนี้ ดอกเบ่งบานอยู่แทบทุกมุม โดยเฉพาะในสถานที่ราชการนิยมปลูก ดูแลง่ายและให้ความสวยงาม ที่สำคัญให้ร่มเงาและแม้ว่ากลีบดอกจะบางแต่ทนแดดสุด ๆ เลยล่ะ เรียกได้ว่าสวยสู้แดด 

3.วาสนาต้นไม้ปรับสภาพเก่ง ใบสวยและดอกกลิ่นหอมแรง ต้นไม้ชนิดนี้นิยมปลูกมากเช่นกัน เพราะดูแลง่าย ทนแดดสุด ๆ และแม้ว่าจะอยู่ในที่แดดรำไรก็สามารถปรับสภาพได้ดี ยิ่งปลูกนานอายุมาก ๆ จะเป็นกอสวยงาม อีกทั้งมีความสูงมากถึง 10 เมตรเลยทีเดียว เหมาะปลูกทั้งในกระถางและในดินแต่ต้องชุ่มชื้นหรือจะเป็นสวนหิน ต้นไม้ชนิดนี้ก็สามารถอยู่ได้แบบไม่ตาย

ปลูกต้นไม้ดีอย่างไร

  • ต้นไม้ทำให้ผ่อนคลายทั้งจิตใจและร่างกาย ด้วยสีสันของต้นไม้โดยเฉพาะสีเขียวถือเป็นสีที่ทำให้ผ่อนคลายสายตา อีกทั้งสีสันของดอกไม้ให้ความสดชื่นรื่นรมย์ใจ
  • ทำให้บ้านเย็น ไม่เพียงให้ร่มเงาเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่เรารดน้ำต้นไม้ ไอเย็นเหล่านี้จะแผ่ออกมา ทำให้บรรยากาศโดยรอบเย็นสบาย
  • เป็นมุมพักผ่อนที่ฟินสุด ๆ ถือเป็นข้อดีที่ทำให้หลายคนรักการปลูกต้นไม้ เพราะเมื่อมีเป็นมุมพักผ่อนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ จะสร้างความสุขและผ่อนคลายได้มากทีเดียว ลองจินตนาการดูว่าหากได้นอนใต้ร่มไม้เย็น ๆ ลมพัดสบาย ๆ จะชิลแค่ไหน 

ใครที่ไม่รู้ว่าจะปลูกต้นอะไรดี เราขอแนะนำต้นไม้ 3 ชนิดที่แนะนำไป ให้ความสวยงามและทนแดดมากทีเดียว อย่างไรก็ตามหากต้องการร่มเงาจะต้องวางแผนปลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่หากอยากได้ความรวดเร็ว ทันใจและมีงบมากพอ การซื้อต้นใหญ่มาปลูกเลย ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

post

ดื่มดับร้อน! รวมเครื่องดื่มดีต่อสุขภาพ สดชื่นและแคลอรี่ต่ำ

อากาศร้อนแบบนี้สิ่งที่จะมาช่วยดับกระหายก็คือเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้วและตัวเลือกที่น่าสนใจคือ จะต้องเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพด้วย เพราะในหนึ่งวันเราจะต้องดื่มสิ่งเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง เราไปดูกันว่ามีเครื่องดื่มประเภทไหนบ้างที่จะมามอบความสดชื่นให้ฤดูร้อนนี้เฟรชขึ้นมาทันที

1.น้ำเปล่าเย็น ๆ  เป็นตัวเลือกแรกที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด เพราะร่างกายของคนเรา 80% เป็นน้ำ หากศึกษาวิธีการดื่มที่ถูกต้อง จะยิ่งเป็นการเพิ่มคุณประโยชน์มากขึ้น อย่างวิธีง่าย ๆ คือให้ค่อย ๆ จิบ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพก่อนในการกระดกหมดทีเดียวอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย

ทริกการดื่ม : ค่อย ๆ จิบระหว่างวัน ทำให้ผิวชุ่มชื่นและขับของเสียออกมาได้ดี

2.สมูทตี้ เป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและเต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย ในเวลานี้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะไม่ใส่น้ำเชื่อมหรือน้ำตาลและไขมันต่ำสุด ๆ ให้ความหวานจากผลไม้ล้วน ๆ สามารถเลือกวัตถุดิบได้ว่าจะใส่อะไรบ้าง 

ทริกการดื่ม : ก่อนปั่นผสมกัน จะต้องดูว่าผลไม้ชนิดไหนเข้าด้วยกันได้ดี

3.น้ำส้มคั้น เป็นผลไม้ชนิดที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะมีเครื่องดื่มชนิดใหม่ ๆ ออกมาเยอะแค่ไหนก็ไม่ได้ทำให้คะแนนความฮอตฮิตลดลงไปได้เลย แม้ว่าจะไม่ใช่สายรักสุขภาพก็ชื่นชอบเป็นที่สุด มีรสชาติเปรี้ยว อมหวาน กลิ่นหอม ช่วยดับกระหายได้ดีไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำส้มล้วน ๆ หรือแบบปั่นก็ตาม ให้ความสดชื่นเต็มสิบเลยล่ะ

ทริกการดื่ม : ควรดื่มน้ำส้มที่ไม่ผสมน้ำตาลและไม่ควรดื่มเกินวันละ 240 มิลลิลิตร

4.แตงโมปั่น เป็นผลไม้ที่มีความฉ่ำทานได้ทั้งแบบสด ๆ และแบบปั่น ให้ความสดชื่นดีไม่แพ้กัน ยิ่งช่วงไหนอากาศร้อนจัด มักเป็นเครื่องดื่มดับกระหายที่ได้รับความนิยมสุด ๆ 

ทริกการดื่ม : หากดื่มเพื่อสุขภาพและควบคุมน้ำหนักไม่ควรผสมน้ำตาล เพราะแตงโมมีรสหวานอยู่แล้ว

5.น้ำผึ้งมะนาว เป็นเครื่องดื่มที่ไม่เพียงทำให้ชุ่มคอเท่านั้น หากเลือกดื่มระหว่างวันจะทำร่างกายตื่นตัว ด้วยรสเปรี้ยวของมะนาวนั้นเอง โดยวิธีทำก็ง่ายแสนง่าย แค่บีบเอาน้ำมะนาวไปคนผสมกับน้ำผึ้งและเกลือในน้ำอุ่น พร้อมเทใส่น้ำแข็ง เท่านี้ก็ได้เครื่องดื่มที่ให้ทั้งความสดชื่นและดีต่อสุขภาพแล้ว

ทริกการดื่ม : หากชงในน้ำอุ่นจะทำให้ชุ่มคอและลดอาการภูมิแพ้ได้ด้วย

6.น้ำกระเจี๊ยบ เครื่องดื่มสมุนไพรไทยทานง่ายและมีรสชาติดีทีเดียว ด้วยความเปรี้ยวจะเป็นตัวที่ทำให้ตื่นตัว ยิ่งผสมทานกับน้ำแข็งจะทำให้สดชื่นมากขึ้น ถือเป็นเครื่องดื่มที่ดับกระหายอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ยิ่งในผู้สูงอายุจะชอบทานเป็นที่สุด เพราะมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่ว อีกทั้งเป็นตัวช่วยย่อยอาหารและยาระบายฤทธิ์อ่อน ๆ และดีไปกว่านั้นคือลดไข้และแก้ไอได้ดีทีเดียว

ทริกการดื่ม : ต้มได้ทั้งแบบสดและแห้ง เพียงแต่หากมีกระเจี๊ยบเยอะการตากแห้งเป็นการถนอมไม่ให้เท่านั้นเอง

post

เตือน! ผลไม้ที่ไม่ควรทานคู่กับอาหารบางเมนู เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

หลายคนคงทราบอยู่แล้วว่าผลไม้บางชนิดไม่ควรทานคู่กับอาหารบางประเภท อย่างทุเรียนกับแอลกอฮอล์ อีกทั้งเคยมีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ว่าเมื่อทานเข้าไปแล้วทำให้เสียชีวิต จึงทำให้ไม่มีใครทานและเลี่ยง ซึ่งไม่เพียงมีแค่นี้ยังมีผลไม้ประเภทอื่น ๆ อีก ก่อนที่จะไปทานเราไปเช็กดูกันก่อนว่าผลไม้อาหารเมนูไหนไม่ควรทานคู่กัน ดังนี้

1.อันตรายไม่ควรทานทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

      เป็นที่รู้ ๆ กันดีกว่าห้ามทานทุเรียนคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท เพราะในผลไม้ชนิดนี้มีกำมะถันอยู่จำนวนมาก สามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ แน่นอนว่าส่งผลให้เข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้เมาเร็ว หากได้ทานเข้าไปจะเกิดอาการหายใจไม่ออก เพราะระบบหายใจเริ่มผิดปกติ อีกทั้งระดับน้ำตาลในเลือดสูงเพราะทั้งในทุเรียนและแอลกอฮอล์มีพลังงานสูง หากส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้

2.อันตรายไม่ควรทานทุเรียนกับน้ำอัดลม

      อย่างที่ทราบกันว่าในทุเรียนและน้ำอัดลมมีน้ำตาลอยู่ปริมาณ เมื่อทานเข้าไปอาจส่งผลร้ายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคเบาหวานยิ่งอันตราย เพราะจะให้ปริมาณในเลือดสูงขึ้น

3.อันตรายไม่ควรทานทุเรียนกับลำไย

      อีกหนึ่งคู่ผลไม้ที่อันตรายต่อสุขภาพหากทานคากันมาก ๆ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้นั้นคือทุเรียนกับลำไย เพราะทั้งสองเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลที่สูงมากและเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน แน่นอนถ้าทานคู่กันจะมีอาการร้อนใน ควรลีกเลี่ยงในผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ควรทานอย่างยิ่ง

4.อันตรายไม่ควรทานผักโขม ปวยเล้ง & เบคอน

      แม้ว่าทั้งคู่จะมีประโยชน์และสารอาหารที่ดีอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน ธาตุเหล็กและแคลเซียม แต่หากเลือกทานจับคู่กับอาหารผิดประเภทจะส่งผลเสียแทนนั้นคือ เบคอน ผักโขม ปวยเล้ง ทั้งสามเมื่อทานคู่กัน กรดฟอสฟอริกที่มีอยู่ในเบคอนจะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม ในส่วนของปวยเล้ง ผักโขมกรดไนตริกจะเปลี่ยนเป็นดินประสิว ซึ่งหากสะสมนานวันจะกลายเป็นมะเร็ง

5.อันตรายไม่ควรทานของทอด & แตงโม

      เชื่อว่าหลายคนคิดว่าทั้งสองเป็นของที่สามารถทานคู่กันได้ดี เพราะแตงโมช่วยตัดเลี่ยนในของทอด แท้จริงแล้วไม่ควรทานคู่กันเพราะฤทธิ์เย็นของแตงโมและน้ำมันที่อยู่ในของทอด เมื่อทานเข้าไปในร่างกายจะทำให้ในกระเพาะเต็มไปด้วยน้ำมันและน้ำ ส่งผลให้ท้องเสีย 

จากเมนูที่เรากล่าวถึงนั้นคงเป็นอาหารจานโปรดของหลาย ๆ คน แต่เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกายไปจนถึงการเสียชีวิตต้องอ่านสิ่งที่เราแนะนำในวันนี้ เพราะในผลไม้แต่ละประเภทรวมไปถึงผักมีสารอาหารและทำหน้าที่ได้ต่างกัน นำไปสู่การแปรสภาพสารอาหารกลายเป็นโทษแทน ฉะนั้นการทานคู่กันจึงต้องศึกษาให้ดีก่อน

post

ไม่บริหารร่างกายมีความเสี่ยงต่อการตายสูง

ศ.จ. แพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่ดูดบุหรี่เผยรายงานภาระหน้าที่โรคของโลกปัจจุบัน ที่เผยแพร่ในนิตยสารการแพทย์ลานเชท พบว่า โรคไม่ติดต่อเป็นต้นเหตุของการตาย 34.5 ล้านคนทั้งโลกคิดเป็นเกือบจะ 2 ใน 3 ของปริมาณผู้ตายทั้งผอง 52.8 ล้านคน ในปีพุทธศักราช2553 โดย 5 ขั้นแรกของปัจจัยการตายเช่น ความดันเลือดสูง9.4 ล้านคน ยาสูบ 6.3 ล้านคน การดื่มสุรา 5 ล้านคน การขาดการบริหารร่างกายรวมทั้งการกินของกินที่ไม่เหมาะสม 12.5 ล้านคน

ดร.น้อง บุญธรรมเจริญรุ่งเรือง หัวหน้าแผนการวิจัยภาระหน้าที่โรค กระทรวงสาธารณสุข เผยจำนวนคนประเทศไทยที่เสียชีวิต พุทธศักราช2552 ทั้งหมดทั้งปวง 430,652 คน เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากโรคความดันเลือดสูง 86,882 คนยาสูบ 50,710 คน การดื่มสุรา 22,672 คน การขาดการบริหารร่างกาย รวมทั้งการกินของกินที่ไม่เหมาะสม 31,743 คน รวมเป็นปริมาณ 192,007 คนคิดเป็น 44.5% ในปีเดียวกัน

แนวโน้มการตายของชาวไทยจากโรคที่สำเร็จจาก 5 การกระทำ อันเป็นต้นว่า ความเคร่งเครียด การสูบยาสูบ การดื่มสุรา การขาดการบริหารร่างกาย รวมทั้งการกินของกินที่ไม่เหมาะสม จะยังคงสูงถัดไป เพราะการกระทำเสี่ยงที่นำมาซึ่งโรคทั้งยัง 5 ยังคงสูงมากมาย โดยคนประเทศไทยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงรวมทั้งโรคเบาหวานมีถึง 11 ล้านคน ชายไทยยังดูดบุหรี่ถึง 42%ดื่มสุรา 60% การออกกำลังไม่พอถึงกว่าครึ่ง กินผักผลไม้ไม่พอถึง 70%แล้วก็แม้กระทั้งคนป่วยโรคเบาหวานชาย ยังดูดบุหรี่ถึง 37% และก็ความดันสูงยังดูดบุหรี่ 31% โดยเหตุนั้นในปีงบประมาณ 2556 จะให้กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำการปรับพฤติกรรมของคนเจ็บโรคความดันสูงแล้วก็โรคเบาหวานให้ลดการรับประทานเหล้า-ยาสูบ เพิ่มการบริหารร่างกาย รวมทั้งการบริโภคของกินที่สมควร

post

10 แนวทางบริหารนิ้วมือให้แข็งแรง

“นิ้วมือ” เป็นอวัยวะสำคัญที่ร่างกายจำต้องใช้อยู่เสมอเวลา หากแม้เป็นอวัยวะเล็กๆแต่ว่ามีกระดูก ข้อต่อ รวมทั้งเอ็นอยู่ล้นหลาม ถ้าหากมีการเจ็บหรือเปลี่ยนไปจากปกติย่อมส่งผลทุกข์ยากลำบากในชีวิตประจำวันของพวกเราไม่มากมายก็น้อย ด้วยเหตุนี้พวกเราจำเป็นต้องดูแลนิ้วมือ ให้อยู่ในภาวะบริบูรณ์พร้อมใช้งาน โดยมี 10 แนวทางบริหารนิ้วมือ มาเสนอแนะทุกคนกันขอรับ

1. อบอุ่นนิ้วมือ

– นวดนิ้วเบาๆให้ผ่อนคลาย

2. คว่ำมือวางบนโต๊ะ

– กระดกนิ้วแต่ละนิ้วขึ้น-ลงครั้งละนิ้วช้าๆ
– กางนิ้วออกให้สุดดูหมิ่นเหยียดหยามและก็หุบเข้าพบกัน ทำแบบนี้ 10ครั้ง

3. กำลูกฟุตบอลขนาดเล็กพอดิบพอดีมือแล้วบีบกระทั่งสุดแรง ทำ 10 ครั้ง(ใช้บอลที่มีความยืดหยุ่น)

4. ใช้นิ้วโป้งเกี่ยวกับนิ้วอื่นๆให้เป็นรูปตัว O ทำเรียงตั้งแต่นิ้วชี้ กึ่งกลางนาง และก็ ก้อย ทำทั้งปวง 5 รอบ

5. บากบั่นทำให้ทุกข้อต่อของทุกนิ้วรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวด้วยการเบาๆขยำกระดาษ

6. นำปลายนิ้วมาติดรอบๆโคนนิ้วสลับกับการดูหมิ่นเหยียดหยามตรง ทำทั้งนั้น 10 ครั้ง

7. ยืดนิ้วโป้งแทยงผ่านฝ่ามือให้ตึงที่สุดปริมาณ 5 ครั้ง

8. พับนิ้วกลางและก็นางลงเข้าพบฝ่ามือขึ้น-ลง 10 ครั้ง

9. ดึงนิ้วมือขึ้นในแนวตรงเบาๆค้างไว้ 5 วินาที แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนแปลงนิ้ว

10. ขยับนิ้วให้เสมือนการพิมพ์ดีดเร็วๆต่อเนื่องกัน 10 วินาที เพื่อทุกข้อต่อดำเนินงานโดยตลอด

นอกเหนือจากวิธีการบริหารนิ้วแล้ว พวกเรายังควรต้องรักษาความสะอาดมือนิ้ว และก็เล็บอยู่ตลอด เพื่อถูกหลักอนามัยที่ดีและก็สุขภาพที่ปลอดภัยไม่มีโรคภัยต่างๆอีกด้วย

post

โยคะกิจกรรมที่ให้ผลดีต่อสมองและก็จิตใจ

“โยคะ” เป็นการฝึกหัดตัวเองที่เกิดจากอินเดียที่มีมานานกว่า 5,000 ปี ซึ่งในขณะนี้โยคะเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ได้รับความพอใจและก็ฝึกหัดกันอย่างล้นหลาม โดยยิ่งไปกว่านั้นบรรดาสมาคมสตรี เพราะว่าเป็นกิจกรรมที่เล่นได้ง่ายและไม่จำต้องลงทุนอะไรมากสักเท่าไรนัก ครูฝึกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมั่นใจว่าการเล่นโยคะช่วยปรับให้ซูบผอมลง ซึ่งอันที่จริงแล้วการฝึกหัดโยคะมิได้มีจุดประสงค์หลักที่การลดหุ่น ด้วยเหตุว่าดึงเอาพลังงานมาใช้ไม่มากสักเท่าไรนักหากเทียบกับการบริหารร่างกายแบบแอโรบิคประเภทอื่นๆแต่ว่าโยคะสามารถช่วยในด้านอื่นที่กิจกรรมแอโรบิคอะไรบางอย่างให้มิได้
ศ.จ.เนฮา ก็อธ และก็คณะทำงานจาก มัธยมอิลลินอยส์ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการฝึกหัดโยคะอย่างเป็นจริงเป็นจัง ทั้งยังในเรื่อง การเผาไหม้พลังงานการทำงานของร่างกาย ระบบความจำ ความพอใจ การเล่าเรียนทางภาษาการศึกษาเล่าเรียน กระบวนการไขปัญหา การใช้เหตุผล และก็การตัดสินใจสำหรับเพื่อการทดสอบได้แบ่งกลุ่มทดสอบออกเป็น 3 กรุ๊ป กรุ๊ปละ 10 คน(อายุ 20 ปีเสมอกัน) กรุ๊ปที่ 1 ให้ฝึกหัดโยคะ 4 ครั้ง/อาทิตย์ ทีละ 20นาที(ท่านั่ง ยืน นอน การยืดดูหมิ่นเหยียดหยามกล้ามในส่วนต่างๆแล้วก็การกำหนดลมหายใจ) กรุ๊ปที่ 2 ให้วิ่งจ๊อกกิ้ง 4 ครั้ง/อาทิตย์ ทีละ 20 นาที(ระบุอัตราการเต้นหัวใจอยู่ที่ 60-70% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด คิดเป็น 120-140 ครั้ง/นาที) ส่วนอีกกรุ๊ปมิได้บริหารร่างกายอะไรเลย
ภายหลังทดสอบเป็นระยะเวลา 3 เดือน ได้นำผู้ทดลองทั้งปวงมาทดลองปรากฏว่าการวิ่งจ๊อกกิ้งช่วยในหัวข้อการเผาผลาญพลังงาน ควบคุมน้ำหนักก้าวหน้าที่สุด แต่ว่าในเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของร่างกายระบบความจำ ความพึงพอใจ อื่นๆอีกมากมาย นั้น การฝึกฝนโยคะช่วยปรับให้ทุกสิ่งดียิ่งขึ้นอย่างแจ่มแจ้ง โดยคนที่วิ่งจ๊อกกิ้งส่งผลไม่ต่างอะไรกับกรุ๊ปที่ไม่บริหารร่างกายเลย
ศ.จ.ก็อธก็เลยได้บอกว่า การฝึกฝนโยคะนั้นมีการจัดระบบร่างกายได้อย่างแม่นยำ ระบุลมหายใจได้มั่นคง ควบคุมสมาธิความสงบเงียบของร่างกายและจิตใจไม่ให้วอกแวก สิ่งพวกนี้เกิดผลดีต่อสมองรวมทั้งความข้องเกี่ยวของระบบรูปแบบการทำงานของร่างกาย โดยสรุปคุณประโยชน์ซึ่งมาจากการฝึกหัดโยคะดังต่อไปนี้
– ด้านร่างกายด้านนอก ช่วยทำให้มีความยืดหยุ่นสูงลดการเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ

– ระบบด้านในเสถียร ช่วยเรื่องระบบหายใจ ไหลเวียนของโลหิต ทำให้คนที่มีความดันสูงลดลดลง อีกทั้งลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

– ทางจิตใจช่วยทำให้ข่มอารมณ์ก้าวหน้า มีสมาธิแน่แน่ว ลดความเคร่งเครียด

– ด้านสมองช่วยทำให้มีความจำที่ดียิ่งขึ้น ศึกษาอะไรได้เร็ว มีการจัดการกับปัญหาแล้วก็คิดด้วยเหตุผลก้าวหน้า

ดังนี้ยังมั่นใจว่าการทดสอบและก็การศึกษาและทำการค้นพบนี้ จะก่อให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยหันมาพอใจและก็ให้ความเอาใจใส่กับการฝึกฝนโยคะกิจกรรมที่ทำไม่ยากที่ได้มาซึ่งสุขภาพทางร่างกายแล้วก็จิตใจ