post

5 เหตุผลที่ไม่ควรนั่งทำงานติดต่อกันนาน ๆ

ใครจะไปคิดว่าการนั่งเฉย ๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยการนั่งติดต่อกันนาน ๆ เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคและอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพใจระยะยาว และสำหรับใครที่รู้ตัวว่าต้องนั่งติดต่อเป็นเวลานาน ลองมาดูข้อเสียของการนั่งยาวว่าส่งผลร้ายต่อร่างกายมากแค่ไหน

1.อัตราการเผาผลาญลดลง
เพราะอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหว หากเคลื่อนไหวร่างกายมาก โอกาสเผาผลาญร่างกายจะมีสูง ดังนั้น การนั่งต่อเนื่องโดยไม่ได้ขยับร่างกายจะทำให้อัตราการเผาผลาญลดน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นหรือเกิดภาวะโรคอ้วน เพราะฉะนั้นอย่าลืมหาเวลาออกกำลังกายหรือเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง

2.จิตใจห่อเหี่ยว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการนั่งเล่นสมาร์ตโฟน การนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์ หรือการนั่งทำงานติดต่อเป็นเวลานานคือสาเหตุแห่งความกังวลหรือทำให้จิตใจห่อเหี่ยวได้ เพราะอาจทำให้นอนหลับไม่สนิท อีกทั้งการนั่งนานจนไม่ได้ออกไปพบปะผู้คนอาจทำจิตใจห่อเหี่ยว เพราะไม่ได้พูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น

3.ต้นเหตุอาการเส้นเลือดขอด
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักอาการเส้นเลือดขอด แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้หลายคนโดยเฉพาะสาว ๆ ขาดความมั่นใจกับเส้นเลือดขอดที่เห็นชัด โดยหนึ่งในสาเหตุของเส้นเลือดขอดคือการนั่งท่าเดิมนาน ๆ ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี บางรายหากมีอาการรุนแรงหรือเป็นหลายจุด อาจต้องเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัด

4.สาเหตุอาการปวดหลัง
เชื่อว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนน่าจะคุ้นชินกับอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนาน ๆ เป็นอย่างดี เพราะหากนั่งไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดอาการหลังค่อม ไหล่งุ้ม ยิ่งหากนั่งติดต่อเป็นเวลานานยิ่งมีโอกาสปวดหลังมากขึ้นไปอีก แนะนำให้เวลาทำงานควรนั่งด้วยท่าที่ถูกต้อง อย่าลืมให้ความสำคัญกับระดับโต๊ะทำงาน เพื่อการนั่งทำงานอย่างสบายไม่ปวดเมื่อย ที่สำคัญควรหาเวลาเดินเล่นบ้างหากรู้สึกว่านั่งทำงานติดต่อเป็นเวลานานแล้ว

5.เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน
ไม่อยากเชื่อว่าการนั่งนานเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยมีการศึกษาออกมาแล้วว่าการนั่งนานจะส่งผลต่อระบบต่อการทำงานของอินซูลิน ทำให้เสี่ยงเกิดโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ความน่ากังวลคือโรคเบาหวานเป็นตัวการให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาอีก เช่น โรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิต เป็นต้น

เมื่อการนั่งนาน ๆ ส่งผลเสียต่อร่างกาย นำมาซึ่งโรคภัยและอาการไม่พึงประสงค์ เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าต้องนั่งนานต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ควรนั่งทำงานสลับกับการเดินยืดเส้นยืดสาย โดยหากทำงานครบ 1 ชั่วโมง อาจหาเวลาเดินเล่น 5-10 นาที เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องนั่งต่อเนื่องเป็นเวลานาน

post

เป็นมนุษย์เงินเดือน มีรายได้น้อย จะวางแผนเกษียณอย่างไรให้มีเงินใช้ไม่ขัดสน

คำว่าเกษียณ ฟังดูเหมือนเป็นระยะเวลาอีกยาวไกลสำหรับใครหลายคน แต่ก็มีหลายคนได้พบว่าชีวิตการทำงานผ่านไปรวดเร็วมาก เราต่างก็เคยได้ยินคนที่มีชีวิตหลังเกษียณที่ต้องอยู่อย่างลำบากกันอยู่บ่อยครั้ง นั่นยิ่งทำให้เราต้องตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนออมเงินเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณกันมากขึ้น แล้วมนุษย์เงินเดือนหรือคนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว เราจะวางแผนการเกษียณอย่างไรให้เป็นสุข มีเงินเลี้ยงตัวเองได้ มาดูกันว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน

ออมตั้งแต่วันนี้ตามกำลังที่ออมได้
ก่อนจะออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ เราต้องรู้แผนชีวิตตัวเองก่อนว่า เราจะเกษียณตัวเองจากการทำงาน ตอนอายุเท่าไหร่ บางคนวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย เท่ากับว่าเราจะมีเวลาในการเก็บออมน้อยกว่าคนอื่น เพราะเราตั้งใจเกษียณเร็ว นั่นยิ่งทำให้ต้องมีเงินเก็บที่มากพอที่จะให้เราใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างไม่ลำบาก ทำได้โดยนำตัวเลขอายุที่อยากเกษียณจากการทำงานลบด้วยอายุตอนนี้ของคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าเหลือเวลาทำงานเก็บเงินอีกกี่ปี จากนั้นชีวิตหลังเกษียณจนถึงวันที่เราจากโลกนี้ไป ซึ่งเราไม่มีวันรู้เลยว่าเมื่อไหร่ อาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่ยาวนาน 10-30 ปี ซึ่งทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมด แล้วเราจะมีชีวิตหลังเกษียณนั้นอย่างไรให้มีเงินใช้เลี้ยงชีพไปตลอด ก็ไม่พ้นต้องใช้เงินที่ออมไว้ตอนที่ยังทำงานอยู่นั่นเอง วันนี้เราไม่ได้มีธุรกิจที่จะมีเงินปันผลหรือผลกำไรกลับมาให้เราได้เหมือนผู้ประกอบการ ทางเลือกเดียวที่เรามีคือ ต้องเก็บออมด้วยตัวเราเอง มีรายได้น้อยก็ออมน้อยเอาตามกำลังที่ไหว การออมเป็นประจำและสม่ำเสมอในระยะเวลาที่นานพอ ก็จะทำให้เรามีเงินเก็บก้อนใหญ่ได้เช่นกัน

สร้างรายได้เพิ่ม
หาช่องทางเพื่อเพิ่มรายได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองมีรายได้ทางเดียว เพราะเมื่อไหร่ที่ช่องทางที่เป็นรายได้หลักหายไป เราจะมีชีวิตที่ลำบากทันที เหมือนชีวิตที่มีไฟอยู่ดวงเดียว หากไฟดวงนั้นดับลงชีวิตเราจะดับตามไปด้วย พยายามมองหาอาชีพเสริมหรือช่องทางเพิ่มรายได้หลาย ๆ ทาง ยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังมีไฟดวงอื่น ๆ ส่องสว่างและช่วยประคับประคองไม่ทำให้ชีวิตเราย่ำแย่ลงไปในครั้งเดียว

หาช่องทางลงทุนเพิ่ม
ปัจจุบัน การนำเงินเก็บที่น้อยนิดไปเก็บไว้ในธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยเงินฝาก ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดอีกต่อไปแล้ว เพราะมีผลตอบแทนที่ต่ำมาก ดอกเบี้ยเงินฝากปัจจุบันแค่ 0.25% เท่านั้น คือเงินฝากเรา 100 บาท ธนาคารให้ดอกเบี้ยเราทั้งปีอยู่ที่ 25 สตางค์ อัตราดอกเบี้ยนี้สู้อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีไม่ได้เลย ทำให้เงินที่เราออมนั้นจะมีมูลค่าของเงินลดลงเรื่อย ๆ คือทำให้เราใช้เงินจำนวนเท่าเดิม ซื้อสินค้าหรือการบริการได้น้อยกว่าเดิม ยิ่งทิ้งเงินไว้นานเท่าไหร่ มูลค่าของเงินก็ยิ่งลดลงทุกปี ดังนั้น ควรแบ่งเงินเก็บไปออมในรูปแบบที่ต่างกันไป เพื่อให้เงินออมงอกเงยขึ้นมา ไม่ว่าจะออมในรูปแบบการซื้อประกันชีวิต ซื้อกองทุน ซื้อหุ้น พันธบัตร ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องทำด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง เพื่อให้เงินออมที่มีนั้นเกิดดอกผลหรือผลตอบแทนสูงสุด

เคลียร์หนี้สินให้หมดก่อนเกษียณ
การมีชีวิตหลังเกษียณแบบมีความมั่งคั่ง ต้องจัดการหนี้สินหลังเกษียณให้เป็น 0 เพราะเราไม่มีรายได้เข้ามาแล้ว หากยังไม่จัดการหนี้สินที่สร้างมาตลอดชีวิตให้หมดไปก่อนเกษียณ รับรองว่า ชีวิตหลังเกษียณจะหาความสุขสบายใจไม่ได้อย่างแน่นอน

การวางแผนเกษียณให้มีเงินใช้ตามต้องการ ไม่ขัดสนเรื่องการเงิน ไม่ได้มีแต่เรื่องของการเก็บออมเงินเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการวางแผนใช้ชีวิตหลังเกษียณ ดังนั้นหนทางไหนที่จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีได้โดยไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน เราก็ต้องทำไว้แต่เนิ่น ๆ ซึ่งสิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การทำประกันสุขภาพ เพราะเมื่อเกษียณแล้วการทำประกันจะกลายเป็นเรื่องยากเนื่องจากอายุมากขึ้น แม้ว่าจะมีบางบริษัทที่รับทำประกันให้กับผู้ที่มีอายุเกิน 75 ปี แต่ค่าเบี้ยประกันก็แพง แล้วคนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้วจะเอากำลังที่ไหนมาส่งเบี้ย

ดังนั้น ต้องเริ่มวางแผนการลงทุนและออมเงินเพื่อให้เงินงอกเงยตั้งแต่วันนี้ ทำประกันสุขภาพตั้งแต่ที่อายุยังน้อย เลือกแบบที่ครอบคลุมจนเราอายุ 80-90 ปี และระยะในการส่งเบี้ยหมดก่อนเกษียณจะเป็นสิ่งที่ดีมากอีกแผนหนึ่งเลยทีเดียว การทำประกันสุขภาพนั้นไม่ต้องรอให้ป่วยก่อนถึงค่อยซื้อ และหากซื้อตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะได้อัตราเบี้ยราคาถูกกว่าด้วย

ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณมีความสุขมากที่สุดและมีเงินใช้อย่างเพียงพอ ขอให้คุณวางแผนและเริ่มลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้เลย