post

เทคนิคการลดหย่อนภาษีที่คนวัยทำงานต้องรู้

เมื่อเราอยู่ในวัยทำงานมีรายได้ นอกจากเอามาใช้จ่ายแล้ว ยังต้องรู้จักเก็บออม และสำรองไว้เตรียมจ่ายภาษีด้วย โดยอัตราการคิดภาษีเป็นแบบขั้นบันไดขึ้นอยู่กับระดับรายได้รวมตลอดทั้งปี ถ้าต่ำกว่า 150,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี แต่หากรายได้รวมสูงกว่านั้นคุณจะต้องเสียภาษีในอัตรา 5 จนถึง 35 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว หากไม่รู้วิธีการ ลดหย่อนภาษี ก็จะทำให้คุณมีเงินเก็บออมที่น้อยลง

เรามาดูกันว่าสามารถลดหย่อนภาษีได้ด้วยวิธีใดบ้าง

1.เลี้ยงดูบิดามารดา
สิทธิ์นี้ถือว่าเป็นรางวัลแด่ผู้ที่กตัญญูเลี้ยงดูพ่อแม่ เมื่อถึงเวลายื่นภาษีจะมีช่องให้คุณเลือกว่าเลี้ยงดูพ่อแม่อยู่ แล้วจะได้รับสิทธิการลดหย่อนภาษีถึง 60,000 บาท หากคุณเป็นลูกคนเดียวก็สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้แน่นอน แต่หากมีพี่น้องก็จำเป็นต้องตกลงกันว่าใครจะได้ใช้สิทธิ์นี้

2.ออมผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ
กอช. เป็นโครงการของรัฐ ที่ทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนมีเงินเก็บออมในระยะยาว จึงสนับสนุนให้นำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ เพียงนำหลักฐานที่พิมพ์อย่างเป็นทางการจาก กอช. มาแนบด้วย คุณจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่คุณส่งเข้ากองทุนนี้ ไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี

3.การลงทุนระยะยาวแบบ LTF RMF
เราสามารถนำหลักฐานการซื้อกองทุน LTF RMF มาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินกว่าที่รัฐบาลกำหนดคือ 15% ของรายได้ทั้งปี (ก่อนหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ) และต้องไม่เกิน 5 แสนบาท

4.การบริจาค
มีองค์กรการกุศล มูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมถึงหน่วยงานเอกชนที่คุณสามารถบริจาคแล้วนำใบเสร็จมาลดภาษีได้ เช่น โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ ฯลฯ บางกรณีสามารถลดหย่อนได้ถึง 2 เท่าของการบริจาคจริงด้วย คุณจึงได้โอกาสนี้ในการทำบุญและได้เงินคืนกลับมาเพื่อเก็บออมในอนาคตพร้อมกัน

5.การเลี้ยงดูผู้พิการ
หากในบ้านมีผู้พิการในครอบครัวที่คุณดูแลอยู่ คุณสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนค่าดูแลบุคคลที่พิการหรือทุพพลภาพได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อแม่เสมอไป อาจเป็นสามีภรรยาหรือบุคคลที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่ต้องมีใบรับรองจากแพทย์และเอกสารต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์

การลดหย่อนภาษีถือว่าเป็นสิทธิ์ที่คนทำงานทุกคนต้องศึกษา เพื่อใช้สิทธิ์นี้ได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญ คือ การเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ จากการรับจ้างงานที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย รวมถึงเอกสารแสดงดอกเบี้ยที่เราผ่อนส่งบ้าน รถยนต์ หรืออื่น ๆ ที่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่รัฐบาลประกาศ จะทำให้เรามั่นใจว่ามีหลักฐานการขอคืนภาษีที่ครบถ้วน เพื่อใช้เวลาตรวจสอบน้อยลง จะทำให้ได้รับคืนภาษีเร็วขึ้นด้วย

post

ข้อเสียจากอาการ บ้างาน มากเกินไป คนวัยทำงานต้องอ่าน

การทำงานอย่างหนักตลอดเวลา หรือที่เรียกว่าการบ้างาน เป็นพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ที่มีความเชื่อว่าต้องทำงานอย่างหนัก จึงจะแสดงถึงความตั้งใจในการทำงานและจะประสบความสำเร็จร่ำรวยได้เร็ว ซึ่งส่งผลต่อภาวะสุขภาพและทำให้ขาดสมดุลในการใช้ชีวิตได้

เราจึงรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวข้อเสียของอาการบ้างานมาฝากกัน ดังนี้

1. เสี่ยงการเป็นโรคเครียดและซึมเศร้า

เนื่องจากการมุ่งมั่นที่เป้าหมายหลัก คือ ผลสำเร็จจากงานเพียงอย่างเดียว เมื่อมีความผิดหวังจากผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรือได้รับคำตำหนิจากเจ้านาย จะทำให้เกิดความเครียดจัด หากต่อเนื่องก็จะสะสมกลายเป็นปัญหาโรคซึมเศร้า ที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงไปอย่างมาก

2. เป็นโรคอ้วนง่าย

ผู้ที่ให้เวลากับการทำงานมากกว่าเรื่องสุขภาพ มักพยายามตัดทอนเวลาส่วนอื่น ๆ ออกไป เช่น เลือกใช้วิธีการรับประทานอาหารที่โต๊ะทำงาน แทนการเดินออกไปซื้อ หรือการต่อเวลาโอทีหลังเวลาปกติจนกลับบ้านเที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง เพื่อให้งานสำเร็จ ทำให้ร่างกายมีระบบการเผาผลาญที่เปลี่ยนแปลงไป เกิดปัญหาไขมันสะสมตามอวัยวะต่าง ๆ ที่สังเกตได้ชัด คือ ที่หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคอ้วนที่กำลังจะตามมาในที่สุด

3. ความสัมพันธ์กับคนอื่นแย่ลง

ความจดจ่อที่มีเฉพาะเรื่องที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ ทำให้ลดอารมณ์ขัน หงุดหงิดง่าย ใจร้อน และมีความตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนรอบข้างไม่กล้าที่จะพูดคุยด้วย และยังขาดโอกาสในการไปปฏิสัมพันธ์กับผู้คนหรือเพื่อนใหม่ ๆ ทำให้มีจำนวนเพื่อนน้อยลง และส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างในระยะยาว ทางที่ดี หากรู้สึกว่าเพื่อนกำลังถอยห่าง ให้รีบปรับอารมณ์ให้เย็นลง ยิ้มให้มากขึ้น และลดชั่วโมงทำงานเสียแต่วันนี้

4. ปัญหาครอบครัว

มักเกิดจากพ่อแม่ที่ต้องให้เวลากับการทำงาน หารายได้เป็นเรื่องหลัก ทำให้ลูกที่อยู่ในช่วงวัยเล็กจนถึงวัยรุ่น ขาดความอบอุ่น ไม่มีคนที่จะพูดคุยให้คำปรึกษา จึงเกิดอาการติดเพื่อน ติดเกม การพนัน ที่ชักนำไปสู่การลองใช้ยาเสพติด แอลกอฮอล์ บุหรี่ ฯลฯ การวางแผนการทำงานแต่ละวันให้รัดกุม ไม่ทำงานเกินเวลาที่กำหนด มอบหมายงานให้ผู้อื่นจัดการบ้าง และร่วมกันดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิด จะทำให้ป้องกันปัญหานี้ได้ดีขึ้น

จะเห็นได้ว่า อาการบ้างาน เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาอย่างมาก ทั้งแก่สุขภาพกายและด้านอารมณ์ของตัวเอง และยังส่งผลต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนและคนในครอบครัวได้อีกด้วย หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านสำรวจตัวเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดอาการบ้างาน ซึ่งจะทำให้รักษาสมดุลในชีวิตได้ดียิ่งขึ้น

ปัญหาครอบครัว