post

รักษาสุขภาพร่างกายอย่างไร ให้อายุยืนนาน

การรักษาสุขภาพร่างกายเพื่อให้สามารถมีอายุยืนนานมีหลายปัจจัยที่สำคัญที่ควรใส่ใจดูแล เช่นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วน การลดสูบบุหรี่หรือเลิกดื่มแอลกอฮอล์ การหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด การนอนหลับเพียงพอและมีคุณภาพ การลดความเครียด และการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการรักษาสุขภาพร่างกายอย่างยั่งยืน เนื่องจากมันช่วยเสริมสร้างระบบที่ประสบการณ์และแข็งแรง ทำให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน และช่วยให้ร่างกายมีสมดุลทางจิตใจด้วย

การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพดีมีสารอาหารครบถ้วน และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารอันตราย เช่น อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงได้

การรักษาสุขภาพจิตก็เช่นเดียวกัน มีผลต่อสุขภาพร่างกายโดยตรง การมีชีวิตที่มีคุณค่าและมีความสุข การใช้เทคนิคการลดความเครียดและอยู่ในสภาวะสมดุลทางจิตใจมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพร่างกายให้อายุยืนนานได้

อย่าลืมให้ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจจับและรักษาโรคในเร็วที่สุดถ้าเป็นไปได้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีเพื่อสุขภาพ เช่น การเลิกสูบบุหรี่หรือการลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ และเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้มีคุณภาพในระยะยาวได้

post

5 ประโยชน์จากโจทย์โควิด

ภาวะโรคระบาดโควิด สร้างวิกฤติที่ทำให้ผู้คนล้มตาย อยู่อย่างบอบช้ำ และอีกจำนวนมากที่ยังหาทางรอดไม่พบเรามองโควิดเป็นผู้ร้าย แต่หากพลิกมุมมองเสียใหม่วิกฤตินี้ก็ให้ประโยชน์กับมนุษย์ด้วยเช่นกันและนี่คือ 5 สิ่งที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางบวก

เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ การทำงานที่บ้านเป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารออนไลน์เต็มรูปแบบ เช่น ประชุมออนไลน์, การส่งงานผ่านคลิปวิดีโอ, การนำเสนองานซึ่งต้องอาศัยเทคนิคที่ดึงดูดใจในเวลากระชับ, สนุกกับการหาความรู้ความบันเทิงผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น เรียนคอร์สออนไลน์ในราคาประหยัด, ทำการตลาดออนไลน์ ฯลฯ ใช้อุปกรณ์มือถือ โน๊ตบุ๊คได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ,ยกระดับตัวเองไม่ตกยุค

เริ่มออกกำลังกายจริงจัง ภัยไม่มาน้ำตาไม่มีมีวิธีไม่เกิด ความรุนแรงของโรคระบาด ทำให้ชีวิตหยุดนิ่ง มีภาวะถดถอยทางอารมณ์ เช่น เครียด ท้อ หงุดหงิดรำคาญ คนที่ติดเชื้อภูมิต้านทานน้อยลง ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นแรงผลักให้เทรนด์การออกกำลังกายมาแรง ปลุกเร้าให้ทุกคนตั้งเป้าเยียวยาตัวเอง เช่น ลดความอ้วน คลายเครียด ฟื้นฟูการเจ็บป่วย จนติดการออกกำลังกายเป็นนิสัย

สร้างเวลาคุณภาพให้ครอบครัว เมื่อต้องทำงานอยู่บ้านทำให้ได้เวลาเดินทางไปทำงานกลับคืนมา ได้ทำอาหาร ได้พูดคุย ให้การดูแลช่วยเหลือกันได้ทันทีซึ่งเป็นบรรยากาศที่ห่างหายในหลายครอบครัว นำมาซึ่งการบริหารจัดการเวลาที่มีประสิทธิภาพขึ้นเมื่อถึงวันที่สถานการณ์กลับมาปกติ

ได้โอกาสทำงานที่ใช่ การลดการจ้างงาน ลดค่าแรง ปรับสวัสดิการใหม่บังคับให้ลูกจ้างกล้าลองผิดลองถูกสร้างทางรอดใหม่มีแรงผลักคือการอดตาย เมื่อกล้าคิดกล้าทำเต็มที่ศักยภาพที่แท้จริงจะถูกปลดปล่อยสามารถตั้งต้นงานใหม่ที่อยากทำด้วยมือของตัวเอง

เปลี่ยนแปลงธุรกิจ บริษัทที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจำเป็นต้องปิดกิจการใช้ความถนัดเดิมมาเริ่มธุรกิจใหม่, บริษัทไหนพอพยุงตัวก็ได้โอกาสปรับกระบวนการทำงาน โครงสร้างองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด,คัดคนที่ขาดประสิทธิภาพออกไป, บางบริษัทสร้างศรัทธาให้กับพนักงานด้วยการช่วยเหลือ ดูแล เกื้อกูลกันสุดกำลัง และบางบริษัทเร่งพัฒนาศักยภาพพนักงานจัดคอร์สอบรมกันเต็มที่ และหลายองค์กรเปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปเป็นแบบไร้ออฟฟิศออกแบบการทำงานให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ นัดหมายพบหน้าตามร้านกาแฟ หรือ co-working space ระบบยืดหยุ่นผลักให้หลุดจากกรอบ สนุกสร้างสรรค์งานมากขึ้น

ปัญหามาปัญญามีเมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องหันหน้าเข้าหาสร้างทัศนคติบวกมองปัญหาให้เป็นโจทย์ที่ท้าทาย เราอาจจะต้องล้มลุกคลุกคลานบ้างแต่หากยังตั้งเป้าอยู่ในความคิดที่ว่าเกิดได้ก็ต้องดับได้ทุกวิกฤติก็จะให้โอกาสกับเราได้เสมอ

post

วิธี ใช้ดนตรีส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต

อิทธิพลของดนตรีส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและ จิตใจ ขึ้นชื่อว่าเสียงเพลงคือเสียงแห่งความสุขที่ปลดปล่อยความทุกข์ ปัดเป่าความเศร้า บรรเทาความเครียดและความวิตกกังวล มีประโยชน์ในการทำสมาธิ การฟังเพลงช่วยให้นอนหลับง่ายและหลับสนิทยิ่งขึ้น เสียงเพลงที่มีคลื่นความถี่เหมาะสมไม่เพียงดีต่อใจเท่านั้น ยังฟังเข้าจังหวะกับการออกกำลังกายเพิ่มความฟิตให้กับร่างกาย ไปจนถึงเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย

วิธีการฟังเพลงโปรดให้มีสุขภาพดีทำได้ดังนี้

1.ใช้จังหวะดนตรีช่วยให้เป็นนักวิ่งที่เก่งขึ้น ทุกวันนี้เทคโนโลยีสวมใส่เป็นประโยชน์ทำให้ฟังเพลงระหว่างวิ่งสะดวกขึ้น ข้อดีของดนตรีคือกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว เพิ่มพลังให้สนุกกับการวิ่งยิ่งขึ้น ออกกำลังกายไปฟังเพลงไป ทำให้อารมณ์ดีและอ่อนเพลียน้อยลง วิ่งได้อึดกว่าเดิม

2.ฟังเพลงช่วยให้นอนหลับง่ายและผ่อนคลาย ถือเป็นวิธีลดปัญหานอนหลับยากที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะดนตรีเสียงธรรมชาติช่วยให้ผู้สูงอายุนอนหลับได้ดีขึ้น จึงฟังได้ทุกวัย เปิดให้ลูกน้อยฟังก็จะอารมณ์ดี ไม่งอแง และนอนหลับสบายด้วย คล้ายกับคุณแม่ร้องเพลงกล่อมเด็กให้ทารกแรกเกิดนอนหลับสบายและมีสุขภาพดี ในวัยนักเรียนนักศึกษาฟังแล้วมีสมาธิ ช่วยพัฒนาสมอง ผู้ใหญ่ฟังเพลินหลับสบาย

3.ดนตรีฟังสบายเพื่อการผ่อนคลายมีจังหวะที่ช้าและเสียงต่ำ ไม่มีเนื้อเพลง อย่างเพลงบรรเลงของโมสาร์ทหรือดนตรีแจ๊สที่นุ่มนวล ช่วยลดระดับความเครียดและความวิตกกังวลอย่างได้ผล พร้อมทั้งกระตุ้นสมองให้มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ดีขึ้น

4.ฟังเพลงโปรดบ่อย ๆ ดีต่อสุขภาพหัวใจ แต่เนื่องจากไม่มีเพลงใดที่เหมาะกับทุกคน ควรเลือกเพลงที่กระตุ้นอารมณ์เชิงบวก เช่น เพลงบรรเลงเพราะจังหวะช้า ๆ กระตุ้นการทำงานของหัวใจให้แข็งแรงมากขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจลดลง ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ดนตรีเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด คล้ายกับโยคะซึ่งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจอาจใช้เพลงเพื่อบรรเทาอาการของโรคให้ดีขึ้นด้วย

5.ดนตรีช่วยผ่อนคลายใจสงบก่อนการผ่าตัด โรงพยาบาลหลายแห่งให้ผู้ป่วยที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดฟังดนตรีบำบัดเพื่อให้อารมณ์สงบและคลายความกังวล ไม่ว่าจะเป็นการถอนฟันหรือผ่าตัดสำคัญ การฟังดนตรีสามารถช่วยให้สงบสติอารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลงานวิจัยทางการแพทย์ระบุว่าดนตรีอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายแง่มุม โดยเฉพาะเพลงที่มีคลื่นความถี่ระดับ 432 ช่วยปรับสมดุลสุขภาพร่างกาย ลดความเครียด นอนหลับสนิทดีขึ้น ดนตรีบำบัดอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดเฉียบพลันของผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคปวดเรื้อรังอื่น ๆ รวมถึงช่วยให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็วขึ้น แม้กระทั่งผู้ป่วยสมองเสื่อมที่ไม่ตอบสนองอาจจะเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง ไม่น่าแปลกใจที่หลายปีมานี้ มีบริการดนตรีบำบัดที่โรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและปรับอารมณ์ให้สงบ

วิธีการฟังเพลงโปรดให้มีสุขภาพดีทำได้ดังนี้

post

ข้อดีของการรับประทานเมนูอาหารจากมะรุม

มะรุมเป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกได้ในทุกภาคของไทย ทำให้คนไทยตั้งแต่ยุคโบราณนิยมทำเป็นเมนูอาหาร เช่น แกงส้ม ไข่เจียว แกงอ่อม ฯลฯ และปัจจุบันยังมีการนำมาสกัดเป็นผงบรรจุเป็นยาแผนโบราณบำรุงร่างกายด้วย

การรับประทานมะรุมจะช่วยให้ได้ประโยชน์อะไรบ้าง

1. ด้านสายตา

มีการศึกษาพบว่ามะรุมน้ำหนัก 1 ขีดจะมีสารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น กลุ่มวิตามินเอ สูงถึงเกือบ 7000 ไมโครกรัม ซึ่งหากเทียบกับแครอท ที่คนทั่วไปรู้ว่าช่วยบำรุงสายตาได้แล้ว ก็นับว่ามะรุมมีมากกว่า 4 เท่าตัว หากต้องการบำรุงจอประสาทตา ช่วยในการมองเห็นในที่มืดต้องรับประทานเมนูมะรุมมากขึ้น

2. ด้านไขมันในเลือด

มะรุมมีสรรพคุณลดไขมันในเลือดได้ หากทำเมนูอาหารเป็นประจำแล้วไปเจาะเลือดตรวจ สุขภาพ จะพบว่ามีค่าคอเรสเตอรอลรวม และ แอลดีแอล ลดลง ทั้งนี้ การมีไขมันในเลือดลดลง จะช่วยลดความเสี่ยงภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดที่หัวใจและสมอง จึงลดความเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้

3. ด้านความดันโลหิต

ปัญหาโรคความดันโลหิตสูงเป็นสิ่งที่ทำให้คนจำนวนมากต้องรับประทานยาตลอดชีวิต การรับประทานเมนูอาหารที่มีใบและฝักมะรุมเป็นประจำ จะช่วยให้หลอดเลือดปรับสมดุล มีความดันที่ลดลงใกล้เกณฑ์ปกติดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถดัดแปลงเป็นเครื่องดื่มจากน้ำต้มรากหรือยอดอ่อนของมะรุมได้เช่นกัน

4. ด้านน้ำตาลในเลือด

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อของอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะส่วนเท้าที่มักมีอาการปลายประสาทชาจนไม่รู้ตัวว่าเป็นแผล ทำให้เสี่ยงต่อการต้องตัดอวัยวะทิ้ง การดื่มน้ำชาจากมะรุมหรือเมนูแกงส้มมะรุมเป็นประจำ จะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น แต่ผู้ที่มียาประจำตัวเกี่ยวกับเบาหวานต้องมีการตรวจวัดน้ำตาลในเลือดควบคู่ด้วยเสมอ

5. ด้านโรคมะเร็ง

โรคมะเร็งมีสาเหตุจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งด้านพันธุกรรม อารมณ์ อาหารที่รับประทานบ่อย ๆ ฯลฯ มีการวิจัยพบว่ามะรุมมีสารกลุ่มต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะที่ลำไส้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หากมีการตรวจพบมะเร็งแล้ว เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด

6. โรคหวัด

โรคหวัดเป็นปัญหาสุขภาพที่ทุกคนเป็นได้ มักเกิดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ฤดูฝน ฤดูหนาว ซึ่งมีการเก็บสถิติพบว่าการรับประทานมะรุม จะทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานดีขึ้น จากวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งมีมากกว่าการรับประทานส้ม 7 เท่าตัว

จะเห็นได้ว่า สรรพคุณของมะรุมมีอยู่หลายด้าน ซึ่งผู้ที่รักสุขภาพต้องใส่ใจคุณประโยชน์ของสมุนไพรและผักสวนครัวไทย เพื่อนำมาหมุนเวียนทำเมนูอาหารบ่อย ๆ จะได้มีสุขภาพดีขึ้นแบบธรรมชาติ

การรับประทานมะรุมจะช่วยให้ได้ประโยชน์อะไรบ้าง

post

5 เคล็ดลับสุขภาพดีสร้างได้ด้วยตนเอง

สุขภาพดีเริ่มต้นได้ที่ตัวเอง คือ สามารถดูแลตัวเองได้จากการใช้ชีวิตประจำวันที่ถูกต้อง คนที่อยู่กับเราตลอดเวลาก็คือตัวเราเอง ดังนั้นเราจะต้องใส่ใจตัวเองเป็นคนแรก หมั่นสังเกตร่างกาย ชีวิต จิตใจของตัวเองในแต่ละวันว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีส่วนใดที่ผิดปกติไปหรือไม่ ถ้าไม่สบายก็ควรพักผ่อน หากเหนื่อยล้าก็ควรพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนค่อยกลับมาสู้ใหม่ จิตใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดูแลไม่แพ้กัน หมั่นสังเกตสภาวะจิตใจและอารมณ์ของตัวเองอยู่เสมอ จากนั้นหาวิธีผ่อนคลายในแบบฉบับของตัวเองสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ได้ดังนี้

พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนเป็นปัจจัยสำคัญของร่างกายในการใช้ชีวิตประจำวันรวมถึงการทำงาน หากพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลต่อการทำงานของสมองระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ ดังนั้นควรบริหารเวลาให้ดีเพื่อให้มีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ เรียงลำดับสิ่งสำคัญที่ควรทำก่อนนอนเพื่อให้เห็นภาพรวมของกิจกรรมในแต่ละวันว่าต้องทำอะไรบ้าง

การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย

การรับประทานอาหารนั้น จำเป็นที่จะต้องใส่ใจและเลือกรับประทานเป็นอันดับแรกเพื่อให้ได้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากมีอาหารมากมายตามท้องตลาดที่อาจมีสารปนเปื้อนในขั้นตอนการผลิต หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดต่าง ๆ ไม่ดื่มประเภทของน้ำหวานได้แก่ น้ำอัดลม ชาไข่มุก กาแฟ ที่รสหวานจัดมากเกินไปและควรมีการจำกัดในแต่ละวัน ซึ่งส่วนนี้ส่งผลต่อสุขภาพและรูปร่างโดยตรง

นั่งสมาธิหรือเล่นโยคะ

การนั่งสมาธิจะทำให้จิตใจและจิตวิญญาณได้พักผ่อน ส่งผลต่อร่างกายด้วยที่จะได้เพิ่มพลังงานไปพร้อมกันมีความสงบมากขึ้น ควบคุมสภาวะอารมณ์มีสติในการตัดสินใจได้ดีได้ มีเวลาอยู่กับตัวเองคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และหาหนทางออกด้วยสติปัญญาไม่ใช่อารมณ์

คิดถึงแต่สิ่งดี ๆ

ชีวิตและสุขภาพที่ดีเกิดจากเรื่องราวที่ดีหมั่นคิดถึงสิ่งดี ๆ รอบตัวมากขึ้น เริ่มจากการมองหาแต่สิ่งดีมากกว่าสิ่งที่แย่เพื่อลดภาวะความเครียดความกังวล จากนั้นสายตาและจิตใจก็จะมองเห็นสิ่งที่ดีมากขึ้น เมื่อเจอปัญหาก็จะมองหาทางออกที่ดีมากกว่าพร่ำบ่นโดยไร้ประโยชน์ เมื่อสุขภาพจิตดีก็จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายที่ดีไปด้วย

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นการทำให้ร่างกายได้ออกแรง ควรออกอย่างพอเหมาะไม่เกินกำลังที่ร่างกายรับได้ จะทำให้ร่างกายและจิตใจเข้มแข็งมากขึ้นคลายเครียดและผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

สุขภาพดีสามารถเริ่มต้นที่ตัวเราเอง ด้วยการหมั่นสังเกตสุขภาพตัวเองดูแลตัวเองในแต่ละวันให้ดี โดยกิน ออกกำลังกาย นอน พักผ่อน ให้เพียงพอเหมาะสม เพียงเท่านี้โรคภัยก็จะไม่เข้ามากล้ำกรายได้แล้ว

การนั่งสมาธิจะทำให้จิตใจและจิตวิญญาณได้พักผ่อน

post

วิธีการสร้างสุขภาพดี แบบฉบับคนรุ่นใหม่ 2019

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดี ไม่เจ็บป่วยง่ายแล้ว ยังทำให้รูปร่างสวยงามและหน้าดูเด็กลงด้วย

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมวิธีการสร้างสุขภาพดีแบบฉบับคนรุ่นใหม่มาฝากกัน เพื่อทุกท่านนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ดังนี้

1. การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและผ่านการปรุงแต่งน้อย เช่น การรับประทานอาหารคลีน นึ่งและต้มแทนการทอด รวมถึงสลัดผักผลไม้สด ทำให้ได้รับคุณค่าจากวิตามินครบถ้วน นอกจากนี้การลดน้ำตาลและแป้งในมื้ออาหาร ยังทำให้ลดการสะสมส่วนเกินตามหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขาได้ด้วย

2. การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ โดยเข้านอนตั้งแต่ก่อน 22:00 น. และตื่นหลัง 03:00 น. จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เนื่องจากร่างกายหลั่งสารเคมีและฮอร์โมนออกมาฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดีในช่วงที่หลับสนิท ทั้งยังทำให้ตื่นนอนตอนเช้าด้วยอารมณ์แจ่มใสสมองปลอดโปร่ง พร้อมสำหรับการทำงานได้ดีตลอดทั้งวัน

3. การหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี ปัจจุบันมีแพ็คเกจการตรวจสุขภาพราคาประหยัดที่เหมาะสมกับเพศชายและเพศหญิง ซึ่งมีบริษัทเอกชนจำนวนมากสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อการตรวจสุขภาพฟรีให้แก่พนักงาน ทำให้สามารถคัดกรองโรคบางชนิด เช่น ความดัน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน รวมถึงโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย

4. การพบทันตแพทย์เป็นประจำ การรักษาความสะอาดด้วยการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปาก เป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่ควรตรวจสุขภาพปากและฟันที่คลินิกทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือนหรือ 1 ปีด้วย เพื่อทำการขูดหินปูน ฟอกสีฟัน หรือการเช็คตำแหน่งฟันผุ เพื่อการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้ลดความรุนแรงของโรคปริทนต์และเสริมความมั่นใจในการเข้าสังคม จากการยิ้มสวยและไม่มีโรคในช่องปากด้วย

5. การออกกำลังกายในทุก ๆ เช้าจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสมองปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น และช่วยลดปัญหาโรคออฟฟิศซินโดรมจากการทำงานหนักหรือทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน

6. การทำสมาธิ เป็นวิธีสร้างสมดุลให้อารมณ์และช่วยในการรักษาโรคความดัน โรคเครียด โรคซึมเศร้า ได้ด้วย มีการศึกษาพบว่าการนั่งสมาธิเป็นประจำวันละ 10-30 นาที จะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้

จะเห็นได้ว่า การดูแลสุขภาพทั้งทางกายและใจ ด้วยการเลือกอาหาร การนอนหลับ การออกกำลังกายแบบต่าง ๆ เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกคน การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพ เช่น ยาเสพติด จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ยาวนานด้วย

วิธีการสร้างสุขภาพดีแบบฉบับคนรุ่นใหม่