post

เผยวิธีดูแลผิวสวยกระจ่างใสแบบเป็นธรรมชาติที่คุณจะต้องหลงรัก

ผิวสวยกระจ่างใส มีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นผิวในฝันของผู้หญิงหลายคน ไม่ใช่เพียงเพราะแต่ความสวยงามภายนอกแต่ยังบ่งบอกถึงการที่มีสุขภาพผิวที่ดีจากภายในซึ่งไม่ใช่ว่าใครก็จะมีได้ วันนี้จะพาทุกท่านไปดูวิธีดูแลผิวสวยใสในแบบที่จะต้องหลงรักไปยาว ๆ แน่นอน 

  1. สครับหรือขัดผิวด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งการขัดผิวนั้นจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกจากผิวของเรา ทำให้ช่วยเผยผิวใหม่ได้ดียิ่งขึ้น ขอแนะนำว่าการใช้แรงในการขัดผิวควรอยู่ในระดับที่พอดี ไม่แรงจนเกินไปเพราะจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบ มีความแดงเกิดขึ้นได้ และถ้าทำเป็นประจำก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยตามมาได้เช่นกัน ในส่วนของครีมขัดผิวที่เลือกใช้ก็ควรที่จะพิจารณาจากสภาพผิวของตนเองเป็นหลัก ยิ่งถ้าเป็นผิวที่แพ้ง่าย ก็ควรเลือกครีมขัดผิวที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายต่อผิวหรือระคายเคืองผิว 
  1. จัดตารางการนอนอย่างเหมาะสมโดยควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7- 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในช่วงระยะเวลาการนอนร่างกายก็จะมีการซ่อมแซมและซ่อมสร้างผิวและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำให้ผิวพรรณมีความสดใสมากยิ่งขึ้น
  1. ทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องผิวของเราจากแสงแดดที่คอยทำร้ายผิว ซึ่งถ้าใครที่มีลักษณะงานหรือกิจกรรมที่ต้องออกแดดหรืออยู่กลางแจ้งเป็นประจำครีมกันแดดถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมาก เพราะนอกจากแสงแดดจะทำร้ายผิวให้หมองคล้ำลงได้แล้วก็ยังทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ด้วยเช่นกัน ทั้ง ฝ้า กระ ริ้วรอยต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นศัตรูตัวร้ายของผิวเลยก็ว่าได้
  1. มาส์กหน้าบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า โดยสามารถทำได้ทั้งในช่วงเช้าและก่อนนอน แนะนำให้ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน สาว ๆ สามารถเลือกใช้เป็นมาร์คสำเร็จรูปหรือนำผสมมาร์คสูตรธรรมชาติ อย่างเช่นโยเกิร์ตผสมกับน้ำผึ้งและน้ำมะนาว จริง ๆ แล้วส่วนผสมของมาร์คหน้าก็สามารถปรับสูตรได้ตามความเหมาะสมและสภาพผิวของแต่ละบุคคลเพื่อให้ได้สูตรมาร์คที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

สำหรับใครที่อยากมีสุขภาพผิวที่ดีไปนาน ๆ แบบปลอดภัยก็สามารถที่จะนำวิธีการดูแลผิวข้างต้นไปใช้ได้ โดยทั้งหมดนั้นเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รับรองว่าได้ผิวสวยและดีขึ้นอย่างที่ต้องการแน่นอน

post

เตือน! ผลไม้ที่ไม่ควรทานคู่กับอาหารบางเมนู เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

หลายคนคงทราบอยู่แล้วว่าผลไม้บางชนิดไม่ควรทานคู่กับอาหารบางประเภท อย่างทุเรียนกับแอลกอฮอล์ อีกทั้งเคยมีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ว่าเมื่อทานเข้าไปแล้วทำให้เสียชีวิต จึงทำให้ไม่มีใครทานและเลี่ยง ซึ่งไม่เพียงมีแค่นี้ยังมีผลไม้ประเภทอื่น ๆ อีก ก่อนที่จะไปทานเราไปเช็กดูกันก่อนว่าผลไม้อาหารเมนูไหนไม่ควรทานคู่กัน ดังนี้

1.อันตรายไม่ควรทานทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

      เป็นที่รู้ ๆ กันดีกว่าห้ามทานทุเรียนคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท เพราะในผลไม้ชนิดนี้มีกำมะถันอยู่จำนวนมาก สามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ แน่นอนว่าส่งผลให้เข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้เมาเร็ว หากได้ทานเข้าไปจะเกิดอาการหายใจไม่ออก เพราะระบบหายใจเริ่มผิดปกติ อีกทั้งระดับน้ำตาลในเลือดสูงเพราะทั้งในทุเรียนและแอลกอฮอล์มีพลังงานสูง หากส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้

2.อันตรายไม่ควรทานทุเรียนกับน้ำอัดลม

      อย่างที่ทราบกันว่าในทุเรียนและน้ำอัดลมมีน้ำตาลอยู่ปริมาณ เมื่อทานเข้าไปอาจส่งผลร้ายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคเบาหวานยิ่งอันตราย เพราะจะให้ปริมาณในเลือดสูงขึ้น

3.อันตรายไม่ควรทานทุเรียนกับลำไย

      อีกหนึ่งคู่ผลไม้ที่อันตรายต่อสุขภาพหากทานคากันมาก ๆ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้นั้นคือทุเรียนกับลำไย เพราะทั้งสองเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลที่สูงมากและเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน แน่นอนถ้าทานคู่กันจะมีอาการร้อนใน ควรลีกเลี่ยงในผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ควรทานอย่างยิ่ง

4.อันตรายไม่ควรทานผักโขม ปวยเล้ง & เบคอน

      แม้ว่าทั้งคู่จะมีประโยชน์และสารอาหารที่ดีอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน ธาตุเหล็กและแคลเซียม แต่หากเลือกทานจับคู่กับอาหารผิดประเภทจะส่งผลเสียแทนนั้นคือ เบคอน ผักโขม ปวยเล้ง ทั้งสามเมื่อทานคู่กัน กรดฟอสฟอริกที่มีอยู่ในเบคอนจะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม ในส่วนของปวยเล้ง ผักโขมกรดไนตริกจะเปลี่ยนเป็นดินประสิว ซึ่งหากสะสมนานวันจะกลายเป็นมะเร็ง

5.อันตรายไม่ควรทานของทอด & แตงโม

      เชื่อว่าหลายคนคิดว่าทั้งสองเป็นของที่สามารถทานคู่กันได้ดี เพราะแตงโมช่วยตัดเลี่ยนในของทอด แท้จริงแล้วไม่ควรทานคู่กันเพราะฤทธิ์เย็นของแตงโมและน้ำมันที่อยู่ในของทอด เมื่อทานเข้าไปในร่างกายจะทำให้ในกระเพาะเต็มไปด้วยน้ำมันและน้ำ ส่งผลให้ท้องเสีย 

จากเมนูที่เรากล่าวถึงนั้นคงเป็นอาหารจานโปรดของหลาย ๆ คน แต่เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกายไปจนถึงการเสียชีวิตต้องอ่านสิ่งที่เราแนะนำในวันนี้ เพราะในผลไม้แต่ละประเภทรวมไปถึงผักมีสารอาหารและทำหน้าที่ได้ต่างกัน นำไปสู่การแปรสภาพสารอาหารกลายเป็นโทษแทน ฉะนั้นการทานคู่กันจึงต้องศึกษาให้ดีก่อน

post

เคล็ดลับหน้าใส ทำยังไงให้ผิวอ่อนวัยไปนาน ๆ

ทุกคนอยากดูเด็กและอ่อนเยาว์ไปตลอดกาล ถึงคนเราจะเข้าใจกฎธรรมชาติ แต่จะมีวิธีการไหนไหมที่จะฝืนไม่ให้ดูแก่มากเกินไปกว่าที่ควร แน่นอนว่ามี! เพราะเราได้ทำการรวบรวมเคล็ดลับแบบธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งพาคลินิกศัลยกรรม และพร้อมจะนำทุกคนไปเรียนรู้เทคนิคบำรุงผิวดี ๆ ที่ทำให้ดูอ่อนกว่าวัยไปหลายปีเลยทีเดียว

  1. บำรุงผิวอย่างจริงจัง

การบำรุงผิวสามารถทำได้ทั้งการทาครีมและการทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ผิวได้รับวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอต่อร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด เพราะจะทำให้คอลลาเจนสลายไว ผิวจะเหี่ยวง่าย นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารทำร้ายผิว เช่น แอลกอฮอล์ ของทอด คาเฟอีน เพราะจะทำให้ผิวมัน เกิดการอุดตัน และนำไปสู่การอักเสบได้ง่าย

  1. เช็ดเครื่องสำอางให้ถูกวิธี

การแต่งหน้าเป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจให้กับสาว ๆ แต่ถ้าไม่ล้างให้สะอาด เครื่องสำอางที่ตกค้างจะทำให้ผิวพังอย่างรวดเร็ว ดังนั้นต้องใส่ใจในการล้างโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะ แต่ต้องล้างอย่างทะนุถนอม ไม่ขัดถูแรง ๆ เพราะจะทำให้ผิวได้รับแรงเสียดสีมากไปจนเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

  1. ทาครีมกันแดดอย่าให้ขาด

แดดประเทศไทยทำร้ายผิดอย่างรุนแรงในทุกฤดู ด้วยความที่เราอาศัยอยู่ในเมืองร้อน ครีมกันแดดจึงเป็นเหมือนไอเทมติดตัวที่จะช่วยป้องกันรังสี UV ที่จะเข้ามาทำร้ายผิว ดังนั้นต้องหมั่นทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่เหมาะสมคือประมาณ 2 ข้อนิ้วสำหรับใบหน้า และอย่าลืมทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงด้วย

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

น้ำนับเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกายถึง 60% การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายผ่านทางระบบขับถ่ายที่ทำงานได้เสถียรขึ้น ทำให้ผิวไม่แห้งกร้านและทำให้ผิวกระชับมากขึ้น โดยอย่างน้อยใน 1 วันควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 1.5 ลิตร 

  1. ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของก๊าซออกซิเจนไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากขึ้น จึงทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส นอกจากนั้นการออกกำลังกายยังทำให้การหลั่งฮอร์โมนที่ควบคุมความเครียดทำงานได้เป็นปกติ จึงทำให้สุขภาพจิตดี ส่งผลให้ดูอ่อนกว่าวัยนั่นเอง

ทั้งหมดนี้เป็นหลักการที่สามารถทำได้จริงเพื่อส่งเสริมให้ผิวพรรณทั้งใบหน้าและร่างกายดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพามีดหมอ ใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้นสามารถทำตามได้ทุกคน ขอแค่ตั้งใจทำอย่างสม่ำเสมอ ใส่ใจและดูแลทุกส่วนของร่างกายอย่างพิถีพิถัน จะมีผิวสวยอ่อนวัยไปได้นานแน่นอน

post

จับสัญญาณเศรษฐกิจโลก ปี 2566 “ยังเสี่ยงสูง”

ชีพจรเศรษฐกิจโลกปี 2566 ส่งสัญญาณไม่ค่อยสู้ดีนัก ปีนี้มีโอกาสสูงมากที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับภาวะถดถอย ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย จะเติบโตน้อยและช้าลง ซึ่งจะกระทบกับไทยด้วย ทำให้ส่งออกได้ไม่มากเท่ากับปีก่อน

เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงสูง

ช่วงต้นปี เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม เผยรายงานวิเคราะห์สถานการณ์ความเสี่ยงโลกในทุกมิติ หลังจากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลงในปี 2566 โลกยังต้องเผชิญปัญหาใหม่ที่ทับซ้อนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นปมขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจของโลก สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน การกีดกันทางการค้า และความซบเซาทางเศรษฐกิจที่กำลังบานปลายไปเรื่อยๆ ทุกภาคส่วนต้องเผชิญผลกระทบกันเป็นลูกโซ่

ในเมื่อช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ยังวางใจไม่ได้ทั้งนั้น เพราะกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพของชาวบ้าน ดูอย่างความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้าง ราคาสินค้าในตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกส่งผลกระทบในด้านทรัพยากรธรรมชาติที่รัสเซียเป็นประเทศส่งออกรายสำคัญย่อมกระทบต่อการค้าในตลาดโลกแน่นอน ส่วนสงครามยูเครนกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดเนื่องจากยูเครนเป็นแหล่งผลิตอาหารรายใหญ่นั่นเอง

สิ่งที่คาดไม่ถึงและไม่สามารถควบคุมได้คือวิกฤติค่าครองชีพที่มีแนวโน้มจะรุนแรงที่สุดในอีก 2 ปีข้างหน้า ด้วยผลกระทบจากสงครามและโควิดส่งผลให้ตลาดเงินทั่วโลกผันผวน เกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง และการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้สินในระยะยาว อีกทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องยิ่งสร้างแรงกดดันต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงค่อนข้างชัดเจนในปีนี้และเร็วกว่าที่คิดไว้ ซึ่งจะส่งผลกระทบหนักต่อภาคการส่งออกของไทยค่อนข้างมากและคาดว่าการส่งออกมีโอกาสที่จะขยายตัวติดลบด้วย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 3% และมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ทิศทางเศรษฐกิจโลกในอนาคตอันใกล้

เศรษฐกิจโลกขณะนี้ไม่แน่นอนและยังวางใจไม่ได้ สถานการณ์ในตอนนี้มองกันที่เศรษฐกิจสหรัฐเป็นประเด็นแรกก่อน เพราะดูดีกว่าประเทศอื่นตรงที่ยังสามารถขยายตัวได้ แม้จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่สูง เศรษฐกิจชะลอตัวแต่โมเมนตัมเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งจากการบริโภคที่ขยายตัว การจ้างงานที่ขยายตัว และอัตราการว่างงานต่ำ สภาพเศรษฐกิจยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ดังนั้นอย่าเอาเงินไปเล่นแทง ผลบอลสด 888 หวังรวยกู้วิกฤตเลย ควรใช้เงินอย่างชาญฉลาดในช่วงนี้

ประเด็นต่อมาเป็นเรื่องของประเทศจีน เมื่อเร็วๆ นี้ จีนได้ยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิดไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และเปิดประเทศอย่างปุบปับฉับไว ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกแข็งแกร่งกว่าเดิม รวมถึงประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียได้ประโยชน์จากธุรกิจการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักมากขึ้น ผู้บริโภคจีนที่เก็บตัวเงียบมานานเริ่มกลับมาใช้จ่ายอีกครั้ง ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับมาคึกคักอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า การคลายล็อกดาวน์ประเทศจีนในครั้งนี้จะกระทบทั่วโลก เนื่องจากจีนยังคงมีความเสี่ยงเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มพุ่งสูงขึ้นอีก น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทำให้ประเทศจีนอ่อนแอลง ซึ่งแน่นอนว่าจะฟาดหางไปถึงเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและเศรษฐกิจโลก ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ซบเซาลงไปตามกันในช่วงท้ายปี

อีกประเด็นสำคัญเป็นเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลงในหลายประเทศแถบเอเชีย แต่เงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในสหรัฐและประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐช่วงเดือนมกราคมอยู่ที่ร้อยละ 6.4 และภาวะเงินเฟ้ออาจยังอยู่ในระดับสูงต่อไปอีก ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อในยุโรปยังอยู่ในเกณฑ์สูง เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขเพราะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วนเงินเฟ้อในที่อื่นยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 2 ทางธนาคารกลางอาจต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงมากสุด ช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ ด้วยเหตุนี้อัตราดอกเบี้ยจึงต้องสูงขึ้นอีกและจะไม่ลดลงง่ายๆ

เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ แต่ไม่กระทบไทยและอาเซียน

สภาพเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน ส่งผลให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในตลาดการค้ากระทบต้นทุนการผลิตทำให้ต้นทุนปรับเพิ่มสูงมาก เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของโลกจะเผชิญกับภาวะถดถอยที่หนักกว่าเดิม ไม่ว่าจะสหรัฐฯ สหภาพยุโรป หรือจีน ต่างกำลังชะลอตัวลงพร้อม ๆ กัน ซึ่งต้องย้ำว่าเป็นภาวะชะลอตัวลง ไม่ถึงกับถดถอย เศรษฐกิจโลกโดยรวมอาจขยายตัวไม่ถึง 3% บางประเทศอาจเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้วย แต่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นในอาเซียนและประเทศไทย

สงครามระหว่างสหรัฐกับจีน และรัสเซียกับยูเครนทำให้เกิดการคว่ำบาตร การซื้อสินค้าเกษตรยากขึ้น หลายประเทศเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารจากผลกระทบสงครามในยูเครนและภัยแล้ง ข้อตกลงอนุญาตให้ยูเครนส่งออกธัญพืชและปุ๋ยจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารส่งออกของไทยที่ได้เข้าไปขายแทนที่ ไทยจึงควรเพิ่มผลผลิตเพื่อให้ได้ส่งออกมากยิ่งขึ้น

สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ นอกจากจะได้ประโยชน์จากการส่งออกอาหารเพิ่มขึ้น แต่ค่าครองชีพในปัจจุบันแพงขึ้นด้วย ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชนที่มีกำลังซื้อน้อย แต่มีค่าใช้จ่ายราว 50-70% ของรายได้ อาจทําให้ไม่เพียงพอกับการยังชีพ เมื่อสินค้าราคาแพงและยอดขายลดลงกระทบกับภาคการผลิตและการจ้างงาน มีคนตกงานมากขึ้น ซึ่งเป็นวงจรที่ไม่พึงประสงค์สําหรับระบบเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

post

ฝึกจิตให้คิดบวก ฝนตกได้อะไร

ฝนตก น้ำท่วม รถติด เป็นเรื่องหงุดหงิดของคนส่วนใหญ่โดยจิตวิทยาแล้ว คนเรามักจะมีปฏิกิริยาลบกับปัญหาที่ตกกระทบกับตัวเราเป็นลำดับแรก น้อยคนนักที่จะมองหาข้อดีของเหตุการณ์เหล่านี้ ฝนตกเป็นเรื่องของธรรมชาติที่อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ เป็นสถานการณ์ที่ยากต่อการหลีกเลี่ยง เมื่อเป็นเช่นนี้ทางออกที่ดีที่สุดคือ การปรับตัว เรียนรู้ เข้าใจ แล้วหาประโยชน์จากมัน เรามาลองฝึกมุมคิดแบบบวกกัน

ปัญหาฝนตกส่งผลกระทบได้หลายระดับขึ้นอยู่กับความหนักเบาของฝน ลองพิจารณาในเรื่องต่อไปนี้

ผลผลิตเสียหาย สำหรับภาคเกษตรกรรมปัญหาน้ำท่วมจากฝนตกถือเป็นเรื่องใหญ่ที่นำความเสียหายมายังเกษตรกรเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันหลายครอบครัวก็สามารถพลิกวิกฤตินี้ให้กลายเป็นโอกาสใหม่ได้อย่างคาดไม่ถึง เช่น ปรับชนิดของพืชเกษตรให้สอดคล้องกับฤดูกาล, เปลี่ยนจากปลูกพืชไปเลี้ยงสัตว์น้ำ,ยกเลิกการทำเกษตรอาชีพไปเป็นเกษตรเพื่อการท่องเที่ยว, เรียนรู้การปลูกพืชนอกฤดูกาลเพื่อหลบเลี่ยงการปลูกในฤดูเดียว,การเน่าเสียของพืชผลทางการเกษตรผลักดันให้เกิดการศึกษาเรียนรู้เรื่องการแปรรูป ลดความเสียหายและเพิ่มมูลค่าของผลผลิตให้มากขึ้น ตลอดจนสามารถเพิ่มช่องทางการขาย การรับรู้จากภาคธุรกิจอื่นๆมากขึ้นทำให้เกิดการต่อยอดในภาคเกษตรสมัยใหม่ต่อไป ในบางพื้นที่เกษตรกรหยุดทำการเกษตรและหันไปหาอาชีพอื่นเป็นการชั่วคราว ขอเพียงมีสติ ปรับตัว เรียนรู้ เตรียมการหาทางออกไม่ปล่อยให้ปัญหายังคงเป็นปัญหา ประตูชัยย่อมเปิดเสมอ

ไฟดับ อย่าต้อนรับไฟดับด้วยความหงุดหงิด ให้ตั้งคำถามทันทีว่า ไฟดับทำอะไรดีนะ? แล้วเรามาหาคำมุมบวกในคำตอบเหล่านี้กัน สำรวจระบบไฟสำรอง ไฟส่องสว่างฉุกเฉิน โดยเฉพาะในสถานพยาบาล,ออฟฟิศ,สถานที่สาธารณะที่เป็นแหล่งชุมชน, ได้เวลางีบหลับ หรือนั่งสมาธิ, ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ, เลือกงานที่สามารถสื่อสารได้ทางโทรศัพท์มาจัดการในช่วงนี้, เปลี่ยนไปทำงานข้างนอกแทน, ให้รางวัลพนักงานกลับบ้านก่อนเวลา หรือปรับให้เป็นวันทำกิจกรรมนอกออฟฟิศ สำหรับคนที่อยู่บ้านจะปรับตัวง่ายกว่าด้วยการหางาน หรือกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ไฟมาสลับทำในช่วงเวลาที่ไฟดับ หรือออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านเท่านั้นเอง ลองตั้งคำถามเตรียมพร้อมต้อนรับไฟดับกันไว้ ไฟดับทำอะไรดี ?

รถติด เป็นปัญหาคลาสสิคโดยเฉพาะในเส้นทางที่มีการก่อสร้าง ปัญหาที่ทำให้เราหงุดหงิดเวลารถติด คืออะไรบ้างล่ะ เข้างานสาย ผิดเวลานัด น้ำมันหมด หิว มีปัญหาระบบขับถ่าย ง่วง และอีกสารพัดปัญหาที่มีโอกาสจะเกิดขึ้น จะว่าไปปัญหานี้เป็นเรื่องที่เราคาดการณ์ล่วงหน้าได้ระดับหนึ่งจากการติดตามพยากรณ์อากาศ เราสามารถเตรียมการและหามุมบวกในโอกาสนี้ได้ เช่น เผื่อเวลาการเดินทาง, ปรับแผนการนัดหมาย (สถานที่+เวลา),เตรียมความพร้อมของน้ำมันรถ,เตรียมอาหารรองท้องระหว่างทาง,เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง, เปิดฟังยูทูปสาระความรู้ดี ๆ เบี่ยงเบนความสนใจจากการจ้องรถติดนี่คือช่วงเวลาทองของการเรียนรู้, บริหารร่างกายในท่าทางที่สามารถทำได้บนที่นั่งคนขับ อาทิ ใช้อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อมือ,กระดกส้นเท้าขึ้น-ลง, ฝึกสูดลมหายใจเข้า-ออกลึกและยาวดึงออกซิเจนไปเลี้ยงสมองให้มากขึ้นเพิ่มความสดชื่น ลดอาการง่วงนอนได้อย่างชะงัดถ้าฝึกประจำจะทำให้หน้าอ่อนกว่าวัยด้วย, กรอกตาซ้าย-ขวา-บน-ล่าง ลดอาการล้าบนใบหน้าและดวงตาได้มาก ฯลฯ ถ้าปรับวิธีคิดระหว่างรถติดได้ในแบบข้างต้น ปัญหารถติดจะกลายเป็นของขวัญระหว่างเดินทางในทุกวันของเรา

ในทุกวิกฤติมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอขึ้นอยู่กับมุมมองของเราที่มีต่อวิกฤตินั้นๆ อย่าปล่อยให้ความหงุดหงิดเป็นเรื่องเคยชินจนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ติดตรึงจนเป็นนิสัย เราอาจหงุดหงิดได้แต่ต้องหายให้เร็วด้วยการฝึกคิดบวก เอาน้ำดีไปไล่น้ำเสียออกจากวิธีคิดของเรา การมองปัญหาเป็นปัญหาไม่ได้ช่วยลดขจัดปัญหาให้หมดไป แต่หากกลับมุมมองให้มองปัญหาเป็นปัญญา ทางออกที่สดใสจะเปิดไฟสว่างให้เราได้ก้าวเดินเสมอ

post

ชวนเขียนไดอารี่ สร้างพลังใจ

อัลเบิร์ต ไอน์สไตล์ กล่าวไว้ว่า “Life is like riding a bicycle. To keep your balance, you must KEEP MOVING.” ชีวิตก็เหมือนกับการขี่จักรยานนั่นแหละถ้าจะให้มันวิ่งต่อไปได้ก็ต้องปั่นรักษาความเร็วให้สมดุล ชีวิตก็เหมือนกันถ้าอยากให้ก้าวไปต่อก็ต้องทำให้มันเคลื่อนต่อไปไม่หยุดนิ่ง ระหว่างทางเดินชีวิตเราสำราญกับความสุขและได้เผชิญทุกข์ที่บุกมาท้าทายศักยภาพในการเอาตัวรอดของเราเป็นระยะ ๆ บ้างเป็นโจทย์ระยะสั้น บ้างเป็นโจทย์ระยะยาว และหลายโจทย์ก็ทำให้ชีวิตเราเสียสมดุล เมื่อถึงที่สุดมนุษย์จะมีวิธีการเหมาะสมในการจัดการกับชีวิตแตกต่างกันไป และวิธีการหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปคือ การเขียนไดอารี่

การเขียนไดอารี่ คือการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบเชิงบวก และลบต่อส่วนลึกของหัวใจลงบนกระดาษ เป็นการสื่อสารที่ไม่ต้องการให้ตนเองเป็นผู้รับสานส์ ต้องการเก็บเป็นความลับส่วนบุคคล เป็นการปลดปล่อยออกไปโดยไม่มีข้อแม้ ไม่มีเงื่อนไข ระบายอย่างหมดเปลือกโดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะคัดค้าน ตัดสินถูกผิด หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อสิ่งที่ระบายออกไป ไม่มีระเบียบแบบแผน วรรคตอน โครงสร้างประโยคหรือถ้อยภาษามาเป็นกรอบ หรือขีดจำกัดในการเขียน อิสระได้ทั้งความคิดและการกระทำ ด้วยการปฏิบัติต่อไดอารี่ดังกล่าวทำให้การเขียนไดอารี่กลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยเรียกสติ สร้างสมาธิ ก่อเกิดเป็นปัญญามาพยุงชีวิตให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้ง เราจะเขียนไดอารี่อย่างไรให้หัวใจเรากลับมาทรงพลังแล้วลุกขึ้นยืนได้ด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว ลองดูเทคนิคดังต่อไปนี้

เขียนอย่างตรงไปตรงมา เราอ่านไดอารี่นี้คนเดียว และมันจะถูกเก็บซ่อนไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นไม่ต้องกักเก็บความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจไว้ จงซื่อสัตย์กับตัวเองสัญญาว่าจะปลดปล่อยทุกความรู้สึกดีร้ายออกมาให้หมด ไม่ต้องตั้งท่าเรียบเรียงก่อนหลัง ไม่ต้องระวังภาษาว่าจะไม่สุภาพหยาบคาย เขียนวนไปวนมาก็ได้ คิดอะไรเขียนลงไปให้หมด

ใช้ภาษาให้สุดในจุดที่คุณเป็น ไม่ต้องกลัวถูกผิด ปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ การฝึกเขียนบ่อยๆ จะเป็นการพัฒนาทักษะภาษาและทักษะการเขียนไปในตัวด้วยซึ่งสุดท้ายเราจะมีสไตล์ สำนวนภาษาในการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ตามธรรมชาติของเราได้ในที่สุด

บันทึกสรุปดีร้าย หลังจากขีดเส้นเน้นย้ำเรื่องราวสำคัญเรียบร้อยแล้ว ให้หยิบเรื่องสำคัญเหล่านั้นออกมาแล้วเขียนลงบนไดอารี่หน้าต่อไปโดยให้ชื่อบทว่า สรุปประเด็นสำคัญของเหตุการณ์ โดยแบ่งเขียนเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งซ้ายเขียนเรื่องดี ฝั่งขวาเขียนเรื่องร้าย สรุปเสร็จอ่านทานซ้ำทั้งสองฝั่งจนขึ้นใจโดยเฉพาะฝั่งขวาต้องเพิ่มความใส่ใจในการอ่านเป็นกรณีพิเศษเพราะมันเป็นตัวการที่ทำให้เราจิตตก เครียด และกังวล

หาเรื่องดีในเรื่องร้าย ข้อสรุปส่วนใหญ่ที่เขียนได้มักจะอยู่ฝั่งร้ายมากกว่าฝั่งดี เพราะเรามักจะมีแรงบันดาลใจเขียนไดอารี่ได้ยาว และเต็มอารมณ์ ในช่วงเวลาที่รู้สึกแย่มากกว่าช่วงเวลามีความสุขนั่นเอง เราจึงต้องย้อนกลับไปทบทวนเหตุการณ์ในฝั่งร้ายทีละข้ออย่างละเอียดอีกครั้งแล้วลองขุดค้นหาข้อดีที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เหล่านั้นให้ได้แล้วนำมาเติมต่อท้ายในฝั่งดี ค่อยๆคิดค้นหาทีละเหตุการณ์จนครบทุกเรื่องร้ายที่เขียนไว้

การเขียนไดอารี่เสมือนเพื่อนซี้คู่ชีวิตที่รอคอยการกลับมาของเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่เคยยุแยง ไม่เคยใส่สีตีไข่ให้ไขว้เขว เป็นพื้นที่ให้เราได้เริ่มด้วยร้อนแล้วผ่อนปิดท้ายด้วยความเรียบเย็น เห็นถูกผิดผ่านการคิดทบทวนด้วยตัวเราเอง แม้จะยังไม่ได้ทางออกของปัญหาทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ช่วยดึงสติให้กลับมา ปลุกกำลังวังชาให้แช่มชื่น เมื่อสติมาปัญญาก็เกิดขึ้น เมื่อนั้นแสงทองผ่องอำไพก็จะเคลื่อนเข้ามาเพื่อนำพาชีวิตก้าวต่อไปได้อย่างไม่หยุดยั้งดั่งจักรยานที่ต้องทรงตัวด้วยการปั่นรักษาสมดุลให้เคลื่อนที่อยู่เสมอ

post

5 ประโยชน์จากโจทย์โควิด

ภาวะโรคระบาดโควิด สร้างวิกฤติที่ทำให้ผู้คนล้มตาย อยู่อย่างบอบช้ำ และอีกจำนวนมากที่ยังหาทางรอดไม่พบเรามองโควิดเป็นผู้ร้าย แต่หากพลิกมุมมองเสียใหม่วิกฤตินี้ก็ให้ประโยชน์กับมนุษย์ด้วยเช่นกันและนี่คือ 5 สิ่งที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางบวก

เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ การทำงานที่บ้านเป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารออนไลน์เต็มรูปแบบ เช่น ประชุมออนไลน์, การส่งงานผ่านคลิปวิดีโอ, การนำเสนองานซึ่งต้องอาศัยเทคนิคที่ดึงดูดใจในเวลากระชับ, สนุกกับการหาความรู้ความบันเทิงผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น เรียนคอร์สออนไลน์ในราคาประหยัด, ทำการตลาดออนไลน์ ฯลฯ ใช้อุปกรณ์มือถือ โน๊ตบุ๊คได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ,ยกระดับตัวเองไม่ตกยุค

เริ่มออกกำลังกายจริงจัง ภัยไม่มาน้ำตาไม่มีมีวิธีไม่เกิด ความรุนแรงของโรคระบาด ทำให้ชีวิตหยุดนิ่ง มีภาวะถดถอยทางอารมณ์ เช่น เครียด ท้อ หงุดหงิดรำคาญ คนที่ติดเชื้อภูมิต้านทานน้อยลง ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นแรงผลักให้เทรนด์การออกกำลังกายมาแรง ปลุกเร้าให้ทุกคนตั้งเป้าเยียวยาตัวเอง เช่น ลดความอ้วน คลายเครียด ฟื้นฟูการเจ็บป่วย จนติดการออกกำลังกายเป็นนิสัย

สร้างเวลาคุณภาพให้ครอบครัว เมื่อต้องทำงานอยู่บ้านทำให้ได้เวลาเดินทางไปทำงานกลับคืนมา ได้ทำอาหาร ได้พูดคุย ให้การดูแลช่วยเหลือกันได้ทันทีซึ่งเป็นบรรยากาศที่ห่างหายในหลายครอบครัว นำมาซึ่งการบริหารจัดการเวลาที่มีประสิทธิภาพขึ้นเมื่อถึงวันที่สถานการณ์กลับมาปกติ

ได้โอกาสทำงานที่ใช่ การลดการจ้างงาน ลดค่าแรง ปรับสวัสดิการใหม่บังคับให้ลูกจ้างกล้าลองผิดลองถูกสร้างทางรอดใหม่มีแรงผลักคือการอดตาย เมื่อกล้าคิดกล้าทำเต็มที่ศักยภาพที่แท้จริงจะถูกปลดปล่อยสามารถตั้งต้นงานใหม่ที่อยากทำด้วยมือของตัวเอง

เปลี่ยนแปลงธุรกิจ บริษัทที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจำเป็นต้องปิดกิจการใช้ความถนัดเดิมมาเริ่มธุรกิจใหม่, บริษัทไหนพอพยุงตัวก็ได้โอกาสปรับกระบวนการทำงาน โครงสร้างองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด,คัดคนที่ขาดประสิทธิภาพออกไป, บางบริษัทสร้างศรัทธาให้กับพนักงานด้วยการช่วยเหลือ ดูแล เกื้อกูลกันสุดกำลัง และบางบริษัทเร่งพัฒนาศักยภาพพนักงานจัดคอร์สอบรมกันเต็มที่ และหลายองค์กรเปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปเป็นแบบไร้ออฟฟิศออกแบบการทำงานให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ นัดหมายพบหน้าตามร้านกาแฟ หรือ co-working space ระบบยืดหยุ่นผลักให้หลุดจากกรอบ สนุกสร้างสรรค์งานมากขึ้น

ปัญหามาปัญญามีเมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องหันหน้าเข้าหาสร้างทัศนคติบวกมองปัญหาให้เป็นโจทย์ที่ท้าทาย เราอาจจะต้องล้มลุกคลุกคลานบ้างแต่หากยังตั้งเป้าอยู่ในความคิดที่ว่าเกิดได้ก็ต้องดับได้ทุกวิกฤติก็จะให้โอกาสกับเราได้เสมอ

post

รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เห็นผลคุ้มค่า

หลายคนเลือกทำศัลยกรรมความงามปรับรูปร่างหน้าตาให้ดูดีเพิ่มความมั่นใจในตนเอง ขณะที่มีอีกหลายคนกังวลเรื่องผลกระทบในระยะยาวและความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ การตัดสินใจทำเป็นครั้งแรก มักจะเริ่มด้วยโบท็อกซ์ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ริ้วรอยหายไปในทันที อยากสวยแต่ยังกังวลใจเรารวมเรื่องราวน่ารู้มาให้คนที่กำลังตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก

โบท็อกซ์ทำอะไรได้บ้าง

การฉีดโบท็อกซ์ที่รู้จักกันดีคือฉีดลดรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว ผิวหนังบริเวณคอ ช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียน ผิวตึงและดูเด็กขึ้น โบท็อกซ์ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดขนาดกรามทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก กรอบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังคุณสมบัติอื่นๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกไม่ถึง เช่น ฉีดใต้รักแร้ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อและระงับกลิ่นกายได้จะเห็นผลลัพธ์ใน 1 เดือน รวมถึงใช้รักษาโรคได้ การฉีดโบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายบรรเทาอาการปวดหัวในผู้ป่วยไมเกรนเรื้อรัง และฉีดกล้ามเนื้อลดอาการตากระตุกได้

กี่วันถึงจะเห็นผลลัพธ์

การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยเป็นที่สนใจจากสาวๆ ทุกวัย ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง เห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังฉีดไป 3 วันจะเริ่มรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แม้ว่าการฉีดตั้งแต่อายุยังน้อยช่วยป้องกันริ้วรอยได้ แต่ไม่ขอแนะนำเพราะผิวสาวเต่งตึงสดใสไปตามวัยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่มักจะเริ่มสนใจฉีดโบท็อกซ์เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไปเป็นวัยที่ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยให้ฉีดป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยลึกถาวร หลังจากนั้นให้ฉีดปริมาณน้อยลงอย่างสม่ำเสมอทุก 3-4 เดือน

เตรียมตัวอย่างเหมาะสมก่อนและหลัง

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรตรวจร่างกายและประเมินโอกาสเกิดผลข้างเคียง เพราะโบท็อกซ์เป็นของเหลวอาจกระจายเป็นวงกว้างจากบริเวณที่ฉีด ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาแอสไพริน หรือยาระงับการอักเสบ 1-2 อาทิตย์ ก่อนฉีดประมาณ 2-3 วันควรหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน กระเทียม ปลาร้า ของหมักดอง และอาหารอย่างอื่นๆ ที่อาจทำให้เลือดออกมากและเกิดรอยฟกช้ำได้

ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

การฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีการรักษาริ้วรอยที่มีมานานแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับปริมาณโบท็อกซ์ที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติ และไม่มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมโบท็อกซ์ ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์คือขั้นตอนกรอกเอกสาร ถ่ายรูป และปรึกษากับแพทย์ ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ส่วนกระบวนการฉีดเพียง 10 นาทีก็เสร็จและประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ราว 5 นาทีหลังจากฉีดไปแล้วเพื่อป้องกันการอักเสบบวมแดงและรอยฟกช้ำภายหลัง หลังฉีดอย่ากด นวด ก้มหน้า นอนราบ หลีกเลี่ยงการอยู่หน้าเตาร้อนๆ และงดเว้นการออกกำลังกายหนักๆ นาน 4 ชั่วโมง เริ่มเห็นผลการรักษาตั้งแต่ 2-7 วัน ผิวหน้าจะกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง

post

5 ข้อดีของการเล่นเกมส์

การเล่นเกมส์ ถือเป็นกิจกรรมที่อยู่คู่มนุษย์มาอย่างยาวนาน ยิ่งในปัจจุบันนั้นที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ก็ทำให้การเล่นเกมส์ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากเกมส์แบบเครื่องคอนโซล และ PC แล้ว ก็ยังมีเกมส์มือถือให้เราได้เลือกเล่น เรียกได้ว่าเกมส์กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลายๆคน เราอาจจะเคยได้ยินว่าการเล่นเกมส์นั้นจะส่งผลเสียต่อเด็กจนกลายเป็นปัญหาเด็กติดเกมส์หรือการเลียนแบบเนื้อหาความรุนแรงมาจากเกมส์ แต่ในทางตรงกันข้ามการเล่นเกมส์ก็มีประโยชน์มากกว่าโทษหากผู้เล่นรู้จักแบ่งเวลาได้และมีวิจารณญาณในการเล่นเกมที่เหมาะสม

ข้อดีของการเล่นเกมส์

  1. ช่วยในการพัฒนาสมอง

การเล่นเกมนั้นจำเป็นต้องใช้ทักษะทางสมองมาช่วยในการเล่น เราต้องใช้การจดจำสำหรับเกมส์บางเกมส์ ฝึกกระบวนการคิดจากสถานการณ์จำลองของเกม ฝึกสมาธิ ความว่องไวในการคิด ไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยในการกระตุ้นสมองให้มีการพัฒนา

  1. ฝึกทักษะทางภาษา

การเล่นเกมยังได้ทักษะในเรื่องของภาษา เกมโดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นภาษาอังกฤษ จะทำให้เราได้ฝึกทักษะทางภาษาไปด้วยในตัวเอง เพราะหากเราไม่พยายามหาความหมายจากศัพท์ภาษาอังกฤษภายในเกมส์แล้ว จะทำให้เราเล่นเกมส์ไม่สนุก จึงต้องพยายามเรียนรู้คำศัพท์หรือประโยคภายในเกมส์เพื่อให้เข้าใจเนื้อหา จะได้เล่นอย่างถูกต้องตามเนื้อหาของเกมส์นั้นๆ

  1. ฝึกทักษะการใช้เทคโนโลยี

การเล่นเกมในยุคสมัยใหม่นั้น จะมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง การที่เราเล่นเกมก็จะช่วยให้เราฝึกทักษะในเรื่องของการใช้เทคโนโลยี รู้จักอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการเล่นเกมส์ อันจะเป็นการต่อยอดด้านความสนใจในเรื่องเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งอาจจะแตกแขนงไปยังเทคโนโลยีด้านอื่นๆเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเล่นเกม

  1. ฝึกทักษะการเข้าสังคม

ในปัจจุบันเกมส์ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของเกมส์ออนไลน์ที่ให้เราร่วมเล่นกับบุคคลอื่น ทำให้เรารู้จักคนอื่นผ่านการเล่นเกมส์ จะทำให้เกิดสังคมออนไลน์ที่นำคนที่ชอบในเกมเดียวกันมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในบางครั้งก็ต้องร่วมเล่นเป็นทีมเดียวกัน ช่วยส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ที่จะทำงานเป็นทีม มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่น

  1. ผ่อนคลายความเครียด

การเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ทำให้คนเราผ่อนคลายจากความเครียดได้ หากเรารู้จักเล่นเกมส์อย่างเหมาะสมและไม่จริงจังจนเกินไป รู้จักควบคุมตัวเอง จะเป็นการพัฒนาทั้งด้าน IQ และ EQ ได้เป็นอย่างดี

  1. สร้างรายได้จากการเล่นเกมส์

ทุกวันนี้การเล่นเกมส์สามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ทั้งการเป็นสตรีมเมอร์เล่นเกมให้ความสนุกสนานแก่ผู้ชม หรือหากมีฝีมือในการเล่นเกมที่ดี ก็จะสามารถเป็นนักแข่งเกมส์มืออาชีพได้ ปัจจุบันวงการ E-Sport มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเล่นเกมกลายเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

การเล่นเกมส์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากเราสามารถแยกแยะให้เหมาะสม ก็จะทำให้เราเล่นเกมส์อย่างสนุกและมีความสุข ประโยชน์จะเกิดขึ้นกับเราอย่างมากมายดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

post

ประกันร้านค้าจำเป็นหรือไม่ และต่างจากประกันทั่วไปอย่างไร ?

เมื่อพูดถึง ประกันร้านค้า แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าคืออะไร ประกันความเสี่ยงด้านใดบ้าง ทำไมร้านค้าขนาดเล็กหรือธุรกิจ SME จำเป็นต้องทำประกันด้วย เรามาติดตามอ่านรายละเอียดกัน

ประกันร้านค้า คืออะไร

ประกันร้านค้าเป็นประกันธุรกิจที่แตกต่างจากประกันทั่วไป เป้าหมายคือการประกันความเสี่ยงในด้านอัคคีภัยเป็นหลัก ครอบคลุมถึงน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ เกิดความเสียหายที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจคุ้มครองด้านอื่น ๆ เช่น ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและความเสี่ยงภัยกรณีธุรกิจหยุดชะงักช่วยชดเชยการเสียรายได้ซึ่งกลายเป็นเรื่องจำเป็นในยุควิกฤตโควิด-19 ที่การดำเนินธุรกิจไม่คล่องตัวเหมือนสมัยก่อน รวมไปถึงความคุ้มครองความเสียหายของสิ่งก่อสร้างในร้านค้า เครื่องจักรชำรุด ทรัพย์สินของร้านค้าสูญหายหรือถูกโจรกรรม และเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ

เมื่อทำประกันคุ้มครองธุรกิจไว้แล้วก็ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลถึงผลกระทบด้านการเงินของผู้ประกอบการ ทั้งขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่เสี่ยงประสบปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินกะทันหัน เมื่อหาเงินมาหมุนใช้จ่ายไม่ทัน ประกันร้านค้าจะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้ ไม่ต้องปิดกิจการลงไป

ประกันร้านค้าเหมาะกับใคร

กลุ่มธุรกิจที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงคือผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไป เช่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านเสริมสวย ร้านเสื้อผ้า ร้านซักรีด ร้านขายยา สปา ร้านคาร์แคร์ ธุรกิจบริการ และร้านค้าอื่น ๆ ทุกประเภท รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงด้วย ช่วยลดรายจ่ายจากความเสียหายด้านต่าง ๆ และป้องกันไม่ให้ธุรกิจสะดุดเมื่อเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดในอนาคต

แนะนำให้ธุรกิจส่วนตัวเล็ก ๆ ควรทำประกันร้านค้าเพื่อความสบายใจ แม้แต่ร้านขายของออนไลน์สนใจทำประกันร้านค้าก็ทำได้ โดยเลือกแพ็คเกจความคุ้มครองที่ต้องการเป็นพิเศษ ทำประกันทรัพย์สินของร้านค้าเป็นหลัก หากมีลูกจ้างเพียง 1-2 คนทำประกันสังคมให้เพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีลูกจ้างหลายคนเลือกซื้อประกันธุรกิจเป็นประกันแบบกลุ่มที่นายจ้างจะซื้อกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดียวดูแลลูกจ้างหลายคนที่อยู่ในฐานะผู้เอาประกันภัย เรียกว่าเป็นสวัสดิการของพนักงานก็ได้

ประกันร้านค้ามีข้อตกลงในกรมธรรม์ที่แตกต่างจากประกันสุขภาพของบุคคลทั่วไป โดยประกันภัยร้านค้ามีมูลค่าของธุรกิจสูงกว่าประกันทั่วไป อาจมีวงเงินตั้งแต่ 1-20 ล้านบาท ทำให้ค่าสินไหมทดแทนของประกันธุรกิจสูงกว่าประกันทั่วไป

ประกันร้านค้าทำได้อย่างไร

การทำประกันร้านค้าหรือประกันธุรกิจทำได้ไม่ยาก มีแพ็คเกจความคุ้มครองให้เลือก อธิบายคร่าว ๆ ก็จะมีโจรกรรม ไฟไหม้ ภัยจากธรรมชาติ น้ำท่วม ทรัพย์สิน ความบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของลูกจ้าง เป็นต้น โดยบริษัทประกันภัยจะอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ และตอบข้อสงสัยเพื่อให้เจ้าของธุรกิจแต่ละรายเลือกความคุ้มครองป้องกันภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับร้านค้าได้อย่างเหมาะสม

คนที่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ต้องเริ่มต้นให้ดีทำให้ถูกต้อง เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กทั่วไปควรซื้อกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและบรรดาลูกจ้างด้วย